Sunday, May 29, 2011

เริ่มต้นเพาะกาย ซื้ออุปกรณ์อะไรดี ++"

 สวัสดีครับคนรักสุขภาพทุกท่าน
    วันนี้ขอมาแนะนำการซื้ออุปกรณ์สำหรับการเพาะกายให้ได้ทราบกัน หลายคนคงนึกว่า ต้องมี เครื่องที่เป็นโครงเหล็ก มีสายเคเบิ้ลระโยงระยาง
มีก้อนน้ำหนักเพียบ มีเก้าอี้นั่ง มีเบาะ โอย สารพัด จากที่เคยเห็นมาในหนังหรือในโรงยิม แต่จริงๆ แล้วเชื่อไหมครับ ดัมบ์เบลล์ ลูกเดียว ก็ผ่านแล้วครับ
    กีฬาเพาะกายเป็นกีฬาเดียวในโลกที่พอคนเริ่มหัดจะนึกถึง กล้ามเนื้อใหญ่โต ล่ำ คมสัน ยักษ์ ไปเลยเหมือนของดาราฝรั่ง ทำให้แหยง ไม่กล้าฝึกกลัวจะ
เป็นแบบนั้นเร็วไปจนแฟนปรับตัวไม่ทัน...ฮา แต่กับกีฬาอื่นๆ กลับไม่นึกกันนะครับว่า จะเป็นเร็ว หรือจะเก่งกล้า เร็วๆ เหมือนกีฬาเพาะกาย ทำไมไม่มีคน
คิดกันบ้างนะว่า วิ่งออกกำลังกาย แล้วกลัวจะเร็วกว่านักวิ่งทีมชาติ หรือแชมป์โลก ว่ายน้ำ กลัวทำลายสถิติโลก รำมวยจีน กลัวเก่งกว่าพระวัดเส้าหลิน มันแปลกไหมครับ แต่ทีกับการเล่นเพาะกาย กลับกลัวว่าจะใหญ่ไป แปลกจริงๆ ใช่ไหมครับ

 นั่นเพราะ การวิ่ง เราเคยวิ่งมาตั้งแต่เด็กๆ เรารู้ว่า วิ่งเร็วไปก็เหนื่อย วิ่งช้าไปก็เดินดีกว่า รู้ลิมิตของตัวเองว่า เท่าใด แค่ไหน การว่ายน้ำเราส่วนมากเคยว่ายมาแล้ว เราก็รู้ว่า มันไม่ง่ายนะ ลำพังหันศรีษะมาสูดอากาศ ตอนว่ายก็หอบแล้ว การรำมวยจีน โอยกระบวนท่าเยอะแยะใครจะหัดได้ครบ หมดจดเหมือนพระวัดเส้าหลิน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราเคยทำมาบ้างแล้วทำให้เราไม่กลัว

  ทว่าการเพาะกายเราไม่เคยทำครับ แต่ในจิตใต้สำนัก ของเรารู้ว่า นอกจากอึดอัดใจแล้ว ทางกายภาพความหนัก นี่ล่ะทรมานมาอันดับหนึ่ง ข้อนี้เราเลยอยากเลี่ยง การต้องยกของหนัก ข้อต่อมา เราไม่เคยรู้ว่า การเล่นเพาะกายมีหลายระดับ เช่นระดับเพื่อความสง่างาม ระดับกล้ามใหญ่ๆ และระดับกล้ามแบบฝรั่งยักษ์ปักหลั่น ที่เราเล่นเพื่อประกวด

  ข้อแรก ระดับเพื่อความสง่างาม นั้น ใครๆ ก็เล่นได้ เป็นเสมือนตั๋วขั้นแรก ก่อนมุ่งสู่อีก 2 ระดับต่อไป แต่กว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้ คุณต้องมีการทุ่มเทออกกำลังเหมือนกีฬาชนิดอื่นๆ หากเป็นการยิงปืน คุณฝึกหนักก็จะได้ยิงปืนแม่น หากเล่นเทนนิส คุณก็อาจจะได้แชมป์
หากวิ่งคุณก็อาจจะทำสถิติใหม่ได้  แต่หากคุณเล่นเพาะกาย สิ่งที่คุณได้แน่ๆ
          -ความสง่างาม
          -ความน่าเกรงขาม
          -คนอื่นให้ความเกรงอกเกรงใจ
         -เสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม
         -มีพลังทางกายและจิตเหนือคนธรรมดา
         -เลิกจากความกิ๊กก๊อก ไปตลอดกาล และอื่นๆ

  ข้อที่สอง ระดับสร้างกล้ามใหญ่ๆ พวกนี้มักจะเป็นนักค้นคว้าในตัวคือ เล่นตั่งแต่ 9 เดือนต่อเนื่อง เขาเรียกกันว่า นักเพาะกายระดับกลาง บางคนว่า ระดับกลางนี่ 4 เดือน บวก อีก 5 เดือนเป็นระดับสูง คนพวกนี้รักกล้ามเนื้อ รักกายวิภาค รู้จักกลุ่มกล้ามเนื้อต่างๆ วิธีฝึกเป็นอย่างดี หาความรู้ กินอาหารอย่างดี ชอบที่จะพบว่า มีมวลกล้ามใหม่ๆ เกิดขึ้น มีความท้าทายในการสร้างกล้ามโดยแท้ กลุ่มหนึ่งเพื่อความภูมิใจ กลุ่มต่อมา มุ่งทีมชาติ
 มันภูมิใจเพราะว่า ในประเทศไทย สมมติให้มีประชากร 64 ล้านคน จะมีกี่คนที่สร้างกล้ามเนื้อแบบเขาได้ จริงไหมครับ ใครๆ ก็วิ่งได้ ใครๆ ก็เล่น
กฬาอื่นได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เล่นกล้ามได้ นี่ล่ะความภูมิใจ

 ข้อที่สาม ระดับกล้ามแบบฝรั่งใหญ่ๆ ยักษ์ๆ เป็นของแปลกในบ้านเราแต่บ้านเขาเป็นที่นับถือ เพราะแสดงให้เห็นถึง ความแข็งแรง ความมีวินัย และความเป็นชายสุดๆ เหมือนซูโม่น่ะครับ แดนปลาดิบยกให้ดังกว่าดาราอีก

 ข้อหนึ่งและสอง คือ Soft Core ฺBodybuilding คือเน้นความ สง่างามและความพึงพอใจที่มีร่างกาย งดงามแข็งแรง
 ข้อที่สาม เป็น Hard Core ฺBodybuilding คือเน้นความใหญ่ของกล้ามเนื้อ และการฝึกหนัก เพื่อประกวด หรือความสะใจ

   ไม่ว่าจะเป็น Core ไหน ต้องเขาใจกันก่อนว่า ใช่ว่าจะได้กล้ามเนื้อมาง่ายๆ คุณต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์จึงจะทำให้มีกล้ามเนื้อสวยๆ ได้
โดยต้องมีองค์ประกอบตามนี้

   1. ต้องมีวินัย กล้าคนทั่วไป ไม่ว่า จะอะไร ถึงเช้าวันฝึกต้องฝึก แม้ต้องเดินทางไปทำงาน ก็ต้องหาทางฝึก อย่างผม ผมจะเอาดัมบ์เบลล์ไปด้วย เอากับผมสิ
   2. ต้องมีโปรแกรมการฝึกที่ ทั่วทั้งตัว เพื่อความสมดุล
   3.ต้องเลือกระบบการฝึกแล้วทำจริง ของผมจะเป็น ฝึก 3 วันพัก 1 วัน
  4.ต้องมีท่าเพาะกายในการฝึก ที่ถูกต้อง
  5.นอนให้ได้อย่างต่ำ 8 ชั่วโมง
  6.กินอาหารเหมาะสม เน้นโปรตีน แป้งบ้าง ไขมันบ้าง
  ึ7.กินครบ 5 หมู่
  8.มีทัศนคติที่ดีต่อการเพาะกาย

  อย่างน้อย 8 ข้อ พอแล้วครับ มีสถิติที่น่าสนใจที่ว่า นักเพาะกาย อายุยืนนะครับ เพราะกระดูก กับกล้ามเนื้อยังใช้การได้ดี แก่ตัวไปเนื่องจากกล้ามเนื้อจะเผาผลาญพลังงาหลังเพาะกายทั้งวันทำให้ กินอาหารได้ สบายๆ ไม่ต้องคุมอาหารนัก น้ำหนัก
ไม่ขึ้นเร็ว เพราะกล้ามช่วยเผาผลาญครับ จะเดินเหิน ยกของสบายๆ ผมหัดมาได้ 15 วันซื้อดัมบ์เบล 8 กิโลกรัม พาเดินเฉยๆ
ครับ หนักแต่ไม่เหนื่อยเลย

  ดังนั้นอย่าเพิ่งกลัวการเพาะกาย ลองมาเล่นกันก่อนครับผม

Thursday, May 26, 2011

ระบบการฝึกเพาะกายแบบ 3 พัก 1 คุณทำได้

  สวัสดีครับ คนรักสุขภาพทุกท่าน

     ระบบการฝึกเพาะกายในโลกมีหลายแบบด้วยกัน ยังไม่นับที่เอามาผสมผสานกันก็มีมาก แต่จะระบบไหนก็ตาม
ผมเชื่อว่า คนเล่นเพาะกาย ได้สุขภาพแน่ๆ และยังกินอะไรๆ ได้เท่าเดิม ไม่ต้องคุมอาหารมาก จนเหมือนว่า เราถูก
หมายหัวให้ต้อง กินแบบเขียมๆ ไปตลอด ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า ระบบการออกกำลังกายของเรา มีการสร้างกล้ามเนื้อ
เมื่อมีกล้ามเนื้อ ก็จะมีการเผาผลาญพลังงาน ทั้งวัน นี่คือข้อเท็จจริง คือ แม้คุณแกตัวไป คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอ้วนเลยครับ เพราะมีกล้ามเนื้อช่วยกินพลังงานอยู่ คุณยังได้ ข้อ เส้นเอ็น และมัดกล้ามที่ช่วพยุงตัวคุณให้ยัง มีความสนุก กับชีวิตได้แม้ว่าคุณจะแก่เกินแกงแล้ว นั่นเพราะ คุณยังมีการเสริมสร้างกล้ามเนื้อนั่นเอง เราๆ ยังหนุ่มอยู่ ก็อย่าปล่อยเวลาครับ เพราะกล้ามเนื้อต้องมีการสั่งสมขึ้นมา เล่นกันตอนหนุ่มๆ แล้วรักษาไว้ โดยฝึกเพาะกายเป็นประจำ คุณจะมีความสุขจากสุขภาพดีไปตลอดชีวิตครับ สิ่งหนึ่งที่ได้แน่ๆ คือ คุณจะเห็นผิวหนงของคุณยังเต่งตึงครับ เพราะมัดกล้ามของคุณ

เล่นแรกๆ กว่าจะมาถึงแบบเบาๆ แบบนี้ไม่ใช่ง่ายๆ นะครับ
ดังนั้นกลัวจะกลายเป็นยักษ์ปักหลั่นเข้าใจผิดทั้งเพ
ขอให้เล่นแบบมีความรู้ครับ เพื่อนคุณที่ไปซื้อคอร์สแพง
สู้คุณไม่ได้แน่ ๆ
คนนี้คือ ไมค์ เมนเซอร์ ปรมาจารย์สาย HIT 
เน้นการฝึกหนักเซ็ทน้อยๆ พักนาน ๆ



  นอกจากนั้นไม่มีใครบอกว่า เพาะกายเล่นกล้ามแล้วห้ามเล่น Cardio หรือ พวกกิจกรรมแอโรบิคต่างๆ เช่น เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ เป็นต้น ก็เล่นไปสิครับ ไม่มีใครว่า ในระบบของผม ที่ผมเล่น 3 วัน พัก 1 วัน แรกเริ่ม ผมเล่นกล้าม ราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพราะยังความรู้น้อย คือเล่น กล้ามส่วนบน สลับกันไป 3 วันแต่ กล้ามขาเล่นทุกวัน แล้วก็มาเดินอีก ราวๆ 15 นาที
 
   ต่อมา พบว่า การเล่นกล้ามส่วนเดิมซ้ำบ่อยๆ กลับทำลายกล้ามเนื้อ กระผมเลยลดการเล่นกล้ามขาลง เป็นคาบการฝึกละ 1 ครั้งเหมือนส่วนอื่นๆ แต่เล่นให้เน้นๆ หน่อย ทีหลังพบว่า เล่นเน้นมาก กลับพาเข่าเจ็บไว้ค่อยว่ากันในบทความต่อไป

     พอลดการเล่นกล้ามขาไป ผมก็มีแรงมากขึ้น มีเวลาเหลืออีก 30 นาท ทำให้ ทุกวันที่เล่นกล้ามเสร็จ ยิดเส้นแล้ว พักแล้วผมก็ไปเดินออกกำลังกาย โดยการเดินอีก 30 นาที คือ ได้ทั้งกล้ามและได้ทั้งระบบการไหลเวียนภายใน

    จากนั้น พอเริ่มฝึกหนักขึ้น พบว่าการฝืนออกกำลังกายต่อ อีก 30 นาทีนั้นอาจจะไม่ดีสำหรับผู้ฝึกไหม ที่ต้องมีการไต่น้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ ตามความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใหม่ๆ เพราะเราต้องใช้แรงมากขึ้น เวลามากขึ้น มีความอ่อนล้ามากขึ้น นั่นทำให้ต้องมีการลด Cardio ลงตามส่วน จนกว่า จะแข็งแรงขึ้นจึงจะกลับมาบริหารในเวลาทีมากขึ้น

    โดยหลักการช่วงเปลี่ยนผ่าน สร้างกล้าม ควรออกกำลังกายด้วย แอโรบิค ไม่ควรเกิน 20 นาที จนเริ่มแข็งแรง จึงจะเดิน 30 นาที แต่ให้กระทำ เพียงวันเว้นวันเท่านั้น อย่าทำ Cardio ทุกวัน เพราะเพียงเท่านี้ ก็มากกว่า ที่คนธรรมดาๆ จะทำ Cardio แล้วเพราะจะทำได้ ประมาณ 4 วันต่อสัปดาห์

   จนเมื่อถึงเวลาที่เราแข็งแรงมากขึ้นอาจจะสัก 2- 3 เดือนไปแล้ว การเดิน 30 นาที ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เล่นกล้ามเสร็จก็ใช่จะต่อโดยการ เดินหรือวิ่งได้เลย ต้องมีอะไรมากกว่านั้น เช่น ต้องมีการพักจนหายเหนื่อย และทานอาหารมีโปรตีน ขั้นกลางได้จะดีกว่ากันครับ เบาๆ ไว้คุยกันใหม่

   การเล่น 3 วัน พัก 1 วันของผมถือหลักว่า  วันเล่นไม่พัก วันพักไม่เล่น นั่นคือ เล่น เล่นจริงๆ มีวินัย ไม่มีข้ออ้าง
ต้องรู้ในใจว่า เล่นกล้ามทำไมดีกับเรา เป็นต้น แล้วเล่นจริง พอพัก ก็พักจริงครับ ไม่เล่นจริงๆ ทำให้เรามีแรงจูงใจสูงครับ
ของผมแม้แข็งแรงแล้วในตอนนี้ ผมฝึกมาได้ ราวๆ 17 วัน มีวันหยุดพักคั่นทุก 3 วัน ตามระบบ ผมก็ไม่ออกเกินตารางฝึก ทั้งๆ ที่ใจมันรู้ว่าไหว เพราะอะไร นั่นเพราะ คุณยังไม่เคยเจอโอเวอร์เทรนนิ่งครับ คือ ฝึกเกินกำลัง หรือ ธาตุไฟแตก จำไว้ว่า อะไรที่เรากระทำเหนือ คนธรรมดาๆ จงให้ทางสายกลางเสมอ

   ผมเคยเดินออกกำลังกาย เดินได้เรื่อยๆ เกือบทุกวัน วันหนึ่ง มีอาการร้อนไปทั้งตัว เจ็บปวดมาก เดินแทบไม่ไหว ใช้เวลา 3 วันกว่าจะหาย พักฟื้นอีก 7-15 วัน แขยงเลิกเดินไปเป็นปีเลย นั่นคือ ฝึกเกินกำลัง จนกล้ามเนื้อฉีก

    การเพาะกาย แบบ 3 พัก 1 นี้ จริงๆ ถือว่าเข้มงวดกว่าระบบอื่นๆ เพราะ ของแท้ต้อง ออก เช้า และ บ่าย หรือ เย็น
ใน 1 วัน ทำกล้ามเนื้อ 2 กลุ่ม แต่ต้องทำจริงๆ จัง มีท่าการฝึก 2-3 ท่า และพักเพียง 1 วัน ขณะที่ระบบอื่นๆ ฝึกทีละส่วน บางคนแยกเป็น 4 วันบ้าง 5 วันบ้าง เป็นต้น

   สำหรับของผม ท่ากันฝึกแรกเริ่มน้อย ๆ 1-2 ท่า แต่ทำ 2 กลุ่มกล้ามเนื้อ ในช่วงเช้าไปเลย เช่นไหล่กับไตรเซ็ป อกกับไบเซ็ป แบบนี้ ทำจนครบ 3 วัน วันละ 2 ส่วน แล้วพัก 1 วันเต็มๆ เบาลงครับ แต่มีเวลาพัก กล้ามทุกส่วน 24 ชั่วโมงพอดีๆ ไม่ใช่ 12 ชั่วโมงเหมือนของแท้ ผมเรียกระบบของผมว่า 3 พัก 1 แบบประยุกต์

    เหมาะกับหนุ่มๆ ที่แรงน้อยๆ สาวๆ ก็ใช้ได้ ครับ เวลาพัก 1 วันนี่ จริงๆ คือ 2 วันนะครับ เพราะเช้าวันพัก เท่ากับพักกลุ่มกล้ามเนื้อล่าสุดมาแล้ว 24 ชั่วโมง แล้วผ่านไปอีก 1 วัน 24 ชั่วโมง รวมเป็น 48 ชั่วโมง จึงจะเริ่มวันแรกของคาบฝึกอีกครั้ง ดังนั้นระบบนี้ ค่อนข้าง จะสบายๆ ครับ แต่น่าจะได้ผลเร็วด้วย คือทางสายกลางครับ

    เทคนิคของผมคือ เมื่อวันใดต้องมีการฝึกผมจะดูก่อนว่าท่าไหน ยังทำไม่ได้ดี ยาก จะเลือกทำก่อนเลย และทำช้าๆ ครับ ทำแบบนี้ทำให้เราก้าวหน้าเร็วมาก

    ใครที่เพิ่งเริ่ม ลองนำไปทำดูนะครับ

ความรู้สึกรักตัวเอง เกิดขึ้นในผู้ขายแมนๆ ได้เช่นสาวๆ

สวัสดีครับ คนรักสุขภาพทุกท่าน

   วันนี้ขอคุยแบบแมนๆ กับเพื่อนสมาชิกกันหน่อย แน่ล่ะ สมาชิกส่วนมากกับการเพาะกายนี่คงไม่พ้น ผู้ชาย แต่ขอเขียนให้สาวๆ อ่านกันด้วยครับ
หลักการรับโปรตีน เข้าสู่ร่างกายของนักเพาะกายคือ 2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยประมาณอันนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นสูตรของคนเริ่มเล่น
ที่ควรมีการสร้างมวลกล้ามเนื้อ มากกว่า คนที่อ้วนอยู่แล้วแล้วมาเล่นกล้าม คือ มีคนพูดถึงคนอ้วนอยู่แล้ว เป็นร้อยกิโลกรัม ที่เริ่มเล่นกล้ามน้อยมาก
เอาล่ะ ขอพูดกลางๆ ก่อนว่า เป็นคนไม่อ้วนมาก นะครับ ใช้หลักนี้ดู
  การจะกินโปรตีนให้เหมาะสมตามสูตร ผมขอแนะนำการดูแลตัวเองสำหรับนักเพาะกาย โดยการใช้ไข่ขาวครับ ซึ่งหากคุณเตรียมมันด้วยตัวเองคุณจะพบ
โลกใหม่ ที่คุณเพิ่งจะรู้ตัวว่า เมื่อเริ่มดูแลอะไรเพื่อตัวเองแล้ว ตัวเรามันดูมีคุณค่าเสียจริงๆ คล้ายๆ กับสาวๆ ที่ต้องมีการแต่งหน้าบ้าง แต่งแล้วมั่นใจนั่นไง

   การกินไข่ขาวคุณจะได้โปรตีนสูงมาก ว่ากันว่า เป็นของหาง่ายราคาถูกที่ให้โปรตีนกับเราสูงที่สุด ราคาถูกที่สุดครับ เช่นว่า

  ไข่ขาว เบอร์ 1  จำนวน 4 ฟอง นี่ให้โปรตีน ราวๆ 18.8 กรัม   ผมเอามาจากตำราเล่มหนึ่งนะครับ
   แปลว่า 1 ฟอง เฉพาะไข่ขาวนะครับ ไม่เอาไข่แดงอันนี้ตักออกไว้ทำกับข้าวก็แล้วกัน

  ไข่ขาว 1 ฟอง จะให้โปรตีน ราวๆ 4.7 กรัมเลยนะครับ

  หากคิดง่ายๆ คุณน้ำหนัก 75 กิโลกรัม ย่อมต้องการโปรตีนเมื่อเล่นเพาะกาย เป็นจำนวน  75 * 2 = 150 กรัม
 เท่ากับ ต้องกินไข่ดาวเป็นจำนวน 150 / 4.7 = 32 ฟอง โดยประมาณ

  ซึ่งไม่มีไขมันเลยแม้แต่น้อย

 *อย่างไรก็ตามใครมีอาการของไต ต้องถามหมอก่อนนะครับ เพราะโปรตีนมากไป ไตก็ต้องรับงานหนักครับ ตอนขับออก

  สำหรับคนปกติทั่วไป โปรตีนจะถูกนำไปใช้สร้างกล้ามเนื้อที่เราเพียรเพาะกาย ในวันนั้นๆ  ส่วนที่เหลือไตก็ขับออก
 ทีนี้ เราต้องกิน 32 ฟองเลยหรือ ฮา แบบนั้น นักเพาะกายระดับโลกมีนะครับ แต่พวกเราคงเอียนเหมือนกัน แต่เนื่องจาก
ราคาของไข่มันถูกนะครับ แล้วได้โปรตีนแรงมาก มันจึงเป็นตัวแปรสำคัญครับที่มาช่วยเรื่องนี้ คือกินเป็นบางส่วนของมื้ออาหารครับ
 ซึ่งควรออกแบบ การกินอาหารให้เป็น 6 มื้อครับ ตามหลักสากลของวิชาการเพาะกาย

  อย่างที่ผมทำอยู่ตอนนี้ คือ ยังเป็น 6 มื้อแบบ ใช้สัญชาตญาณ ผสม กับหลักการเพาะกายครับ รอสักพักจะเริ่มนับแคลอรี่กันจริงจัง
ที่ผมทำแบบนี้ได้เพราะตอนนี้ผมน้ำหนัก เกิน 100 กิโลกรัมครับ ไม่ต้องขุนครับมีแต่ต้องสร้างกล้ามแล้วลดแป้ง ลดไขมันครับ
ผมจะกินไข่ วันละ 10 ฟอง ครับ จากสูตรข้างต้น ต้องได้โปรตีน ราวๆ 2 * 100 = 200 กรัม

 1. กินมื้อแรกก่อนเล่นกล้าม ราวๆ 30 นาที   ไข่ขาว 5 ฟอง ได้ โปรตีน ไปแล้ว    5 * 4.ึ7 กรัม = 23.5 กรัม ตุนไว้แล้ว

2.หลังเล่นกล้าม ให้รีบหม่ำ พวกอาหารคาร์บอไฮเดรต  ให้พออิ่ม ใน 20 นาทีแรก และ อีก 30 นาที ตามด้วยโปรตีน พออิ่ม
  มื้อนี้ แล้วแต่เลือก แต่ผมเลือกเป็นพวก อาหารเสริมคือมันง่ายดี บางคนเป็นเวย์โปรตีน บางคนก็เป็นของอื่นๆ
  หากให้เมนูไข่ขาวเสร็จๆไป ก็กินอีก 5 ฟองครับ ได้อีก ราวๆ 23.5 กรัม  ตอนนี้ ได้โปรตีนเป็น    47 กรัมแล้วนะครับ
 ของผมพิเศษ ช่วงเช้าดีนักแล ผมทานวิตามินและเกลือแร่ 1 เม็ดอาจารย์ท่านหนึ่งแนะนำ Centrum ครับ วันละเม็ดกิน
เดือนเว้นเดือนนะครับ เพราะเขาว่ามันสะสมได้หากกินต่อเนื่อง อันนี้ตามแนวทางของผม

 3.สมมุติ ว่าคุณกินโปรตีนในข้อสองเสร็จ ราวๆ 7.30 น. ก็ต้องอาบน้ำไปทำงาน บวกเวลาไป 3 ชั่วโมง ได้ 10.30 คุณต้องกิน
โปรตีนอีกตรงนี้หากอยู่ในที่ทำงาน อาจจะไม่สะดวก  บางคนเตรียมอาหารใส่กล่องไปทาน ได้เลยครับ อาหารจากมื้อนี้ไป ควรมีครบ 5 หมู่ด้วยครับ
 ที่เขาแนะนำ เช่น อกไก่ สัก 1 ขีด กับผักสลัด ได้โปรตีนแน่ๆ ราวๆ 35 กรัม ตอนนี้รวมเป็นโปรตีน   82 กรัมแล้วนะครับ

4. นับไปอีก 3 ชั่วโมง เป็น 13.30 น. ชวนเพื่อนกินข้าวเที่ยงสายหน่อย ก็กินอาหารมีโปรตีนอีก บางคนเอียนเนื้อไก่ก็ต้องพึ่งอาหารเสริม แต่ผมยังไหว
   อกไก่กันต่อ ได้อีก 35 กรัม รวมเป็น   117 กรัม แล้วสำหรับโปรตีน ไม่จำเป็นต้องเป็นอกไก่ ลองหาอะไรที่ให้โปรตีนใกล้ๆ กันครับ ตำราหาไม่ยาก
 ในเว็บมีมากมาย

5.นับไปอีก 3 ชั่วโมง ได้ 16.30 น. สำหรับงานราชการก็กลับบ้านกันแล้ว ก็โปรตีนกันต่อ ราวๆ 35 กรัม เป็น 152 กรัม

6.นับไปอีก 3 ชั่วโมง ได้ 19.30 น. อีก 35 กรัม เป็น 187 กรัม ซึ่งใกล้เคียงกับ เป้าหมาย คือ 200 กรัมมากแล้ว หากคุณจะนอน
  ราวๆ 3 ทุ่ม ตามด้วยอาหารเสริม โปรตีน หรือ ไข่ขาวอีกก็ยังได้ อีกแค่ 13 กรัม ก็เลือกเลยครับจะเอาอย่างไร หากเป็นไข่ขาวก็ราวๆ 3 ฟอง
แต่ผมว่า เป็นไข่ขาวประหยัดดีครับ

  หมายเหตุ: ไม่ได้ให้กินแต่โปรตีนนะครับ ย้ำนะครับ อ่านดีๆ นี่เป็นการระบุว่า ในแต่ละมื้อของโปรตีนเท่านั้น เราจัดโปรตีน ให้กระจาย 6 มื้ออย่างไร
  ดังนั้นแปลว่า ทุกมื้อคุณต้องมี ไขมัน คาร์บอไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ ครบ 5 หมู่นะครับ เพียงแต่ไม่ได้กล่าวถึงเท่านั่น

 หากต้องการรู้แบบ % โดยประมาณ ก็ราวๆ นี้

 โปรตีน ราวๆ 30 % ของพลังงานทั้งหมด
 ไขมัน ราวๆ  20 % ของพลังงานทั้งหมด
 คาร์บอไฮเดรต ราวๆ 50 % ของพลังงานทั้งหมด
 จากความต้องการพลังงาน ราวๆ 3000-3500 แคลอรี่นะครับ

 และอาหารเหล่านี้สำหรับการเริ่มเล่นกล้ามแล้ว และเล่นอย่างมีโปรแกรม ด้วยเอาล่ะ เดี๋ยวจะเขียนโปรแกรมฝึกให้อ่านกัน

วันนี้ประมาณนี้ก่อนสวัสดีครับ

:0)

Monday, May 23, 2011

เ้ข้าใจเสียใหม่ๆ เรื่องอุปกรณ์ และ ระยะเวลา

สวัสดีครับคนรักสุขภาพทุกท่าน

   หลายคนยังติดกับความคิดผิดๆว่า จะกล้ามสวยๆ ต้องเพาะกายที่ Fitness Club เท่านั้น เพราะในหนังพระเอก นางเอก ไปที่นั่น
แต่จริงๆ แล้ว เคยถามตัวเองมไหมว่า คนสมัยโบราณ ทำไมมีกล้ามสวยๆ ได้ อืมน่าคิดนะครับ นั่นเพราะ การจะมีกล้ามสวย ไม่ใช่เรื่องของ
อุปกรณ์ หลังนั้นหลังนี้ ที่เป็นโครงโลหะ  มีหลากหลายแบบ ไม่ใช่ครับ มันอยู่ที่ ลูกน้ำหนัก เท่านั้นเองครับ นั่นคือ ดัมบ์เบลล์ครับ เพาะกายด้วย
ขวดน้ำ 1.5 ลิตรได้ไหม ได้ครับ ให้มือคุณยังกุมได้ไม่ลำบาก ทำได้ แต่พอกล้ามเพิ่มมาแล้ว จะเติมน้ำหนักยังไงครับ ต้องไปหามาอีกขวด สองขวด
เอาเชือกมาผูกก็ใช่ที่ สู้ไปซื้อดัมเบลล์แบบเปลี่ยนน้ำหนักได้มาดีกว่าครับ ประหยัดเนื้อที่ ใช้ได้ทนทาน

   จากดัมบ์เบลล์ เพียงเท่านี้คุณก็เป็นชายงามได้แล้วครับ เพราะ คุณจะมีท่าฝึกมาตรฐาน ที่ผ่านการทดลองมาแล้วให้ทำอีกหลายท่า ตั้งแต่ คอมาถึงเท้า
่คุณต้องทำทุกท่าให้ถูกต้อง และใส่ใจในการกินอย่างมากๆ กินดีๆ มีประโยชน์ ต้องนอนให้เพียงพอ 8-10 ชั่วโมง
   ดังนั้นที่ว่า จะมีกล้ามสวยๆ ต้องไปฟิตเนส ไม่จริงเสมอไปครับ

  เรื่องเวลาที่จะเห็นผลก็ต้องระวังไว้นะครับ อย่าได้คิดว่า ทำแค่ไม่กี่วันจะได้ผล ให้คุณใช้เครื่องชั่งน้ำหนักตอนเริ่มพอครับ จากนั้นไม่ต้องชั่งบ่อย
เพราะการเล่นกล้าม บอกแล้วว่า ขอให้คุณกินไขมันน้อยลงหน่อย และพยายามเว้นน้ำตาลยังไงน้ำหนักก็ลงครับ ยิ่งมีทำ แอโรบิค เดิน วิ่ง หรือ อะไรอื่น
ที่สำคัญ ต้องเริ่มฝึกนิสัยอ่านแคลอรี่กันได้แล้วนะครับ ว่า ระหว่าง อาหาร 2 อย่างจะเลือกกินอะไรประมาณนี้ แล้ว 1 วันต้องการกี่แคลอรี่ เพื่อ คุมน้ำหนักไม่ให้น้อยหรือมากไป ทำไปสักพักจะชินไปเองครับเพราะจะจำได้เอง
  จำไว้ว่าอาหาร 5 หมู่ ต้องครบ และ น้ำต้องดื่มมากหน่อย สำหรับนักกีฬาเพาะกายนะครับ อย่ากินเกินหรือขาด ต้องศึกษาจากตำราครับ

  สิ่งที่เน้นคือ โปรตีนต้องมีแน่ คาร์บ หรือคาร์บอไฮเดรต ต้องมี ไขมันก็ต้องมี แต่สัดส่วน ในการเพิ่มลด มักจะมาดูที่ คาร์บ กับไขมันครับ
หากคุณยังไม่ชินต้องอ่านแคลอรี่ เลย ครับ แต่แบบว่า ตัดไปเลยไม่ได้นะครับ เพราะไม่มีแรงเล่นกล้ามและกล้ามไม่ขึ้นจ้า

  ดังนั้น ชั่งน้ำหนักแค่เดือนละครั้งพอแล้ว ส่วนมากหากยังอ้วนอยู่ ไม่จาก น้ำตาล ก็แป้ง ก็ไขมันครับ ง่ายๆ ครับ
  วันนี้เท่านี้ก่อนครับ สวัสดีครับ

 
   
 

ก่อนจะเริ่มเล่นกล้าม อยากรู้ไหมทำไมคนเลิกเล่นกล้าม?

 สวัสดีคนรักสุขภาพ สมาชิกบล็อก เพาะกายแบบแมนๆ สไตล์คุณบอลล์ ทุกท่านครับ :0)

วันที่ 24 พ.ค. 2554 ช่วงเช้า หลังฝึกเพาะกาย

     ก่อนจะเริ่มเพาะกาย (ผมใช้สลับกับเล่นกล้ามนะครับ) คุณต้องมีเรื่องที่ต้องตระเตรียมพอสมควร หากคุณไม่มีความอดทนพอก็ อย่าเสียเวลานะครับ
ไปออกกำลังกายสบายๆ เดิน หรือ วิ่ง หรือ ว่ายน้ำก็ได้ ขอให้ได้ ขยับ 3 วัน วันละ 40 นาที ต่อสัปดาห์ นั่นก็พอสำหรับคุณครับ แต่สำหรับกระผม
และแมนๆ หลายคน รวมทั้ง สาวที่อย่าง แกร่ง อย่างเฟิร์มพอประมาณ ยังไม่พอครับ

    ดังนั้นในบทความนี้ผมเขียนกันเอาไว้เลยว่า คุณจะพบอะไรบ้างเมื่อเริ่มเล่นกล้าม มีดังนี้

1.เล่นกล้าม ระวังจะใหญ่เหมือนกบนะ เคยเห็นไหม ขาโตเหมือนกบ เลย
  ตอบ: แล้วรู้ไหมกว่าจะโตได้เหมือนกบน่ะ ใช้เวลานานโขนะครับ ต้องกินแบบมีวินัย ฝึกยาวนาน น้ำหนักก็ ต้องปรับให้เหมาะสม
        เขามีแต่หาวิธีให้กล้ามโตขึ้น และไม่ใช่ทุกคนทำได้ เพราะมันทำได้ยากครับผม  ที่คนพูดไม่รู้เพราะเขานึกว่า การเพาะกายคือ
        การยกน้ำหนัก ยกดัมบ์เบลล์ แล้วก็ปั๊มๆๆๆ แล้วกล้ามโต ไม่ใช่นะครับ

        ขอให้นึกถึงกรรมกรแบกข้าวสารครับ เขามีเวลาทำงานแน่นอนนะครับ ยกเสร็จก็ต้องพัก กินอาหารที่ต้องให้พลังงาน นานปี
ทำมาหลายปี ก็ได้กล้ามสวยๆ แต่มีกี่คนครับที่ขาเหมือนกบ บ้าครับ ก็ไม่เห็นมี เพราะ มันไปออกที่ส่วนบน ที่ต้องรับน้ำหนักข้าวสาร
ร้อยกิโล อย่างนี้ ไปออกที่ปีก ที่หลัง แต่ ยังไงก็ใหญ่สวยเท่านักกล้ามแบบสากลไม่ได้ ทำไม เพราะมันมีวิชาการครับผม

        การเพาะกายยุคใหม่นี่อายุประมาณ 40-50 ปีนี่เอง ซึ่งมีวิทยาศาสตร์รองรับ มีงานวิจัยรองรับ นักเพาะกาย จะมีความรู้หลากหลาย
เช่น กายวิภาค ยังไง เราเรียกกล้ามที่เบ่งโชว์ว่า ไบเซป เรียกกล้ามหลังแขนตรงข้ามว่า ไตรเซ็ป เรียกกล้ามหลังขาว่า แฮมสตริง ก็แฮมน่ะครับ
โอยเอาเป็นว่า คุยกับหมอได้ก็แล้วกัน แต่หมอไม่รู้นะครับ ต้องทำท่าไหนกล้ามส่วนไหน ขึ้น เร็ว ช้า อย่างไร

      นักเพาะกาย จะหันมาสนใจโภชนาการ Chipหาย เลย ขอสะใจหน่อย เพราะว่า ทุกวัน ตรูต้องตื่นมาอย่างมีวินัย เติมแป้ง โปรตีน ก่อน 1 มื้อ ราวๆ 30 นาทีก่อนจะไปออกกำลังกาย เสร็จ ต้องอาบน้ำ (ลูกศิษย์ของผม ต้องอาบน้ำ) เพราะผมเอามาจากการฝึกโยคะครับ เขาว่า สะอาด และ หากอาบแล้ว ทาโรลออน หรือ ฉีดน้ำหอม บางๆ จะดีมาก เพราะเหงื่อน่ะ เดี๋ยวมีกลิ่นตัวเดินผ่าน สาวๆ เป็นลมครับ  เอาเป็นว่า สะอาดๆ ดีกว่า กล้ามเนื้อ ความตื่นตัว
ยังถือว่า สดชื่นตามเราด้วย หายง่วงเด็ดขาดด้วยครับ

     จากนั้นก็เริ่มออกกำลังกาย ต้องดูท่าให้ถูกต้อง 1 ล่ะ ต้องค่อยๆ ทำ ใส่ใจเข้าไป 1 ล่ะ ต้องออกแรง ติดๆ กัน 12 ครั้ง 3 เซ็ท 1ล่ะ ต้องระวังใจต้องตามดูว่าเรายังยกไหวไหม 1 ล่ะ ใช้เวลาประมาณ 20 -30 นาที หรือ  60 นาที 1 ล่ะ ยังไม่นับ การยืดเส้น การวอร์มด้วยน้ำหนักน้อยๆ ในทุกท่า ก่อนฝึกจริง การยืดเส้น ก่อนไปทำแอโรบิค ขจัดกรดแล็คติกจะได้ไม่ปวดกล้ามมาก 1 ล่ะ กว่าจะคูลดาวน์ อีก 1 ล่ะ โอย ผมว่าเล่นกล้ามนี่ใช้สมาธิในการทำ มากกว่า พิธีชงชาอีกนะครับ คือต้องมีสติกับมันตลอดเวลา เราต้องเสียเหงื่อ เจ็บปวด สะใจขนาดไหน กว่าจะเสร็จเพียง
 1 วัน ใน คาบการฝึก ซึ่งมี 3 วัน กว่าจะได้พัก 1 วัน  มันทำอะไรเยอะมาก แล้วใครจะบ้า ไปกินไม่ยั้ง ไม่ดูแคลอรี่ ไม่สนใจน้ำตาล มากน้อยเหมือนเมื่อก่อน ก็มันยาก ครับ กว่าจะเสร็จรอบของมัน   เหมือนเงินน่ะครับ หายากๆ จึงรู้คุณค่าครับ

   อ้อ หลังฝึก 20 นาที เติมแป้ง 30 นาที เติม โปรตีน อีก เห้นไหมมันเยอะครับ กว่าจะโตได้ สวยๆ และมีรีดให้คมดั่งใบมีด เอามาจากนักเพาะกายคนหนึ่งผมชอบนะ คมดั่งใบมีด อย่านึกว่าทำง่ายๆ นะครับ

  ต้องมีหลักวิชาครับ การเพาะกายจึงจะก้าวหน้า

2.เล่นทำไมกล้าม สาวๆ ชอบ ตี๋ ผอมๆ ขาวๆ

  ตอบ: นั่นเป็นพระเอกในโลกมายาครับ พระเอกในโลกมายา ยังมี The Rock, เทพอาร์โนลด์, ซิลเวสเตอร์ สตาโลน และหล่อๆ ล่ำๆ อีกเพียบ
 ดังนั้นอย่าไป ลอยตามกระแสกรี้ด ของสาวๆ แต่ทำให้ สาวๆ มากรี้ด แมนๆ แบบคุณดีกว่า

3.เล่นยาก ไม่มีเวลา
  ตอบ: อันนี้ผมอ่านจากอาจารย์ ท่านที่เป็นตำรวจมาครับ สรุปคือ มีแชมป์ระดับโลกที่ฝึกวันละ 20 นาทีเท่านั้น เอาไปคิดกันเองครับ

4. เล่นแนวแอโรบิคดีกว่า ทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิต ระบบหายใจดี
 ตอบ: เล่นแบบแอโรบิค เกิดการเผาผลาญแคลอรี เพียงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังเล่น แต่เล่นกล้าม จะเผาผลาญพลังงานตลอดวัน
        ใครอยากลดน้ำหนักน่ะ คิดใหม่นะครับ ฮ่ะๆๆๆๆ ที่สำคัญ หากเล่นกล้ามด้วย แล้ว ทำแอโรบิคด้วย ฮาเลยครับว่าไหม

5. อายุมากเล่นไม่ไหว
    อายุเกิน 35 ไปแล้วฮอร์โมนส์ ลดลง มวลกล้ามเนื้อ และกระดูก ค่อยๆ เสื่อมถอย โอย รู้แล้วเศร้า หากชอบเจ็บโน่นนี่มาตั้งแต่หนุ่มๆ สาวๆ
ยิ่งคนอ้วนด้วย คนที่ชอบเจ็บป่วย คุณว่า อีก 10 ปี ตอน 45 คุณจะเป็นอย่างไร น่ากลัวนะครับ แต่มีงานวิจัยว่า การเพาะกาย ช่วยได้ จากที่ยิ่ง
กล้ามใหญ่ฮอร์โมนส์ยิ่งเพิ่มครับ กล้ามยังช่วยพยุงร่างกาย ได้อีก น้ำหนักตัวตอนแก่จะสบายๆ ไม่อ้วนเร็วเพราะที่บอกมาแล้ว เล่นกล้ามจะเผาผลาญ
พลังงานตลอดวันครับ กระดูกจะเกิดการปรับตัวเมื่อฝึกการยกน้ำหนักสม่ำเสมอ แล้วคุณจะติดใจ

  ล้อต๊อก ดาราตลกไทย เป็นนักเพาะกายนะครับ ลองไปหากันดูว่าท่านเสียชีวิตอายุเท่าไร ท่านแนะนำว่าเราควรเพาะกายนะครับ

  เอาล่ะครับ ให้ข้อมูลไว้เท่านี้ก่อนครับ

สวัสดีครับ :0)
คุณบอลล์

เชื่อหรือเปล่าครับ การเพาะกายเปลี่ยนชีิวิตของคุณได้

สวัสดีครับ คนรักสุขภาพทุกท่าน
 
    วันที่เริ่มเขียนบทความวันนี้ ผมยังอ้วนตุ๊ต๊ะอยู่เลย แต่ภายในของผม ผมรู้ดีว่ามันเริ่มมีการสะสมพลังภายในมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรน่ะหรือครับ
ก็จากการที่ผมไปเล่นเหวตวันนี้ ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยมากๆ เหงื่อที่ไหลออกมาเป็นเสมือนรางวัลจากธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ทำให้ผมเริ่มเชื่อแล้วว่า
คนกับธรรมชาติแยกจากกันไม่ได้จริงๆ และผมเชื่อมากๆ เสียด้วย :0)
    ผมเคยมีความคิดมานานแล้วว่า รุ่งเช้าบรรพบุรุษของพวกเราเมื่อหลายหมื่นปีก่อนทำอะไรกัน เขาคนนั้นคงต้องตื่นขึ้นมาแล้วบิดขี้เกียจ สูดอากาศยามเช้าสัมผัสอากาศเย็นๆ แล้วก็ต้องหยิบเครื่องมือออกไปล่าสัตว์ หรือไม่ก็ไปทำกสิกรรม การออกล่าสัตว์ การทำกสิกรรม หากเทียบ
กับตอนนี้ ก็คือ การออกไปเพาะกาย จากนั้นก็เอาสัตว์กลับถ้ำ หรือเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ กลับถ้ำ เสมือนกับการ เดินออกกำลังกาย
  เมื่อมาเริ่มออกกำลังกาย ผมได้จัด ลำดับการฝึกของตนเองไว้ดังนี้

 1.ยืดเส้นสาย
 2.วอร์มด้วยน้ำหนักน้อยๆ ในทุกท่า
 3.เพาะกายท่าต่างๆ ทำแบบ 3 วัน พัก 1 วัน
 4.ยืดเส้นอีกครั้ง พักนานหน่อย
 5.เดินออกกำลังกาย 30 นาที
 6.คูลดาวน์

  ผมทำแบบนี้ประจำยกเว้นวันพักเท่านั้น  ทุก 3 วันทำ 1 วันพัก  เรียกว่า 1 คาบการฝึก
  ผมเริ่มจากน้ำหนักน้อยๆ การเดินออกกำลังกาย ขนาด 10 นาทียังเหนื่อย ผ่านไป 3 คาบการฝึก
  ผมไต่น้ำหนักจาก 2.5 kg. มาเป็น 5 kg. ได้ครบทุกท่าที่ทำทีแรกไม่ได้ ทำให้ผมเห็นว่า
  การเพาะกายของผมมีความก้าวหน้าแล้ว  ทำเอง ได้เอง ครับ


หยาดเหงื่อและความปวดของกล้ามเนื้อ ที่เราต้องสั่งสมผ่านวันเป็นเดือนเป็นปี
ความรู้สึกนี้จะมีได้ก็ต่อเมื่อคุณเป็นนักกล้าม หรือ นักเพาะกาย เท่านั้น เมื่อ
สิ่งที่ได้มาคือมัดกล้ามที่ แมน สมชายชาตรี ร่างกายของเราสื่อสารแต่ความจริงเท่านั้น
  

    ก่อนเห็นการพัฒนา ผมรู้ตัวเองได้เลยหลังจากฝึกอย่างถูกวิธีว่า ผมสดชื่นขึ้น อาการเจ็บปวดจากข้อต่างๆ หายไวในข้ามคืน ข้อนี้ทำให้ผมสบายใจ เพราะที่อ่านมาจากหลายที่ บอกว่า การเล่นกล้าม การเพาะกายนี่ล่ะ จะทำให้ฮอร์โมนเพศชาย กลับมา บางที่บอกว่า กล้ามยิ่งใหญ่ ฮอร์โมนยิ่งมาก และ เมื่อผมฟื้นตัวได้ใน 1 คืน แสดงว่าผมไวกับกายเพาะกายมาก ผมก็ดีใจสิครับ ผมลุยต่อไปจนครบ 3 คาบกันฝึก คือ 9 วัน ก็พบว่า มีสาวคนหนึ่ง จริงๆ ผมจีบเธออยู่ครับ เธอถามผมด้วยคำถามแปลกๆ ว่า ทำอย่างไรให้รอยคล้ำใต้ตาหายไป ผมก็งง คิดไงมาถามเรา ? พอกลับมาบ้าน ลองมองกระจกอ้าวรอยคล้ำที่เคยเป็นเครื่องหมายการค้าของผม มันหายไปแล้วครับ หายไปตอนไหนว่ะ ก่อนเพาะกายยังมีอยู่เลย แล้วผมชอบบอกตัวเองว่า มันเป็นผลจากการนอนดึกมากกว่า แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว หายแบบเด็ดขาด ผมกลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง ฮ่ะๆๆๆๆ คงเพราะเธอเห็นผมหลังไม่ได้พบกันนานหน่อย เลยสังเกตุได้ง่าย อ๋อแบบนี้นี่เอง

   ก่อนเพาะกายผมเดินออกกำลังกายอย่างเดียว แต่พอเริ่มเพาะกาย ผมรู้สึกว่า ผมเป็นแมนมากกกว่าเดิม มันแข็งแกร่งครับ จะเดินไปไหน มาไหนมัน มั่นใจมาก คือแขน หลัง ไหล่ การย่างก้าว กล้ามเนื้อมันไปไวกว่าเมื่อก่อน  ความอ่อนล้าหายไปหมดเลย ก็อย่างที่บอก ร่างกายมันสื่อสารให้คนอื่นเห็นแต่ความจริง หากเราแข็งแรง คนอื่นก็จะเห็นแบบนั้น จะมาหลอกกันไม่ได้ นี่ขนาดผมยังอ้วนๆ นะครับ ไว้ผมน้ำหนักลด
และร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้าม จะขนาดไหน

   จากคนอ่อนเพลีย กลายมาเป็น คนที่สามารถยกดัมบ์เบลล์ ได้ทีละ 30-60 นาที สัมผัสน้ำหนัก กว่า 6 ตันนะครับ คือคำนวณทั้ง รอบ และ จำนวนในรอบ บวกเข้าด้วยกัน แล้วยังสามารถอาบน้ำ ไปทำงานได้ตามปกติ นี่เรียกว่า เปลี่ยนชีวิตครับ

   คนรอบข้างตื่นเต้นชื่นชมเรา จาก วินัย ที่คนอ้วนๆ คนหนึ่งจะไปยิมเกิอบทุกวัน นี่สำคัญ

   เพศตรงข้าม ให้ความสนใจเราแบบ ไม่คาดคิด คงเพราะฮอร์โมนส์ ดีๆ ที่หลั่งออกมา

   ร่างกาย นอนหลับสบาย ฟื้นความอ่อนล้าได้เร็ว เหมือนคนอายุ 18 ัปี เดินเหินสง่างาม ในตัวมันแน่นๆ เฟิร์มมาก

   ความก้าวหน้า  จากน้ำหนักน้อยๆ ที่เราพอรับไหว เป็นเล่นน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น 2 เท่าได้ใน 10 วันหลังการเพาะกายแบบ
   มีหลักวิชาการ สร้างความภูมิใจเล็กๆ ให้เราทำต่อไป เพราะกล้ามเนื้อตอบรับแล้ว ต่อไปเราย่อมต้องยกแบบหนัก สุดๆ ได้ไม่ยาก

   ความมั่นใจ เพิ่มแบบทวีคูณ เพราะว่า ในโลกใบนี้ ยังมีน้อยคนที่ออกกำลังกาย แต่น้อยลงไปอีก ที่เล่นกล้าม  ดังนั้น นักกล้าม
 จึงเป็นบุคคล ที่เด่นออกมา เพราะคุณต้องมีวินัยสูงมาก ต้องศึกษาหาความรู้โดยตลอด ต้องมีสูตรอาหาร ต้องฝึกอย่างถูกต้อง
  ความที่หลากหลายแบบนี้ ผมเชื่อเสมอว่า นักกล้าม นักเพาะกาย คือ คนพิเศษ คือยอดมนุษย์ ครับ

   การเล่นเพาะกายยังต้องมีการใช้จิต ด้วย ทุกครั้งที่ยก หรือ คลายต้องเพ่งสมาธิไปที่กล้ามเนื้อ หลายคนยังไม่ทราบใช่ไหม
ไว้ติดตามอ่านบทความของผมต่อไปครับ จะเขียนบ่อยๆ ให้อ่านกัน ครั้งนี้ ขอ 1 เรื่องครับ เชื่อผมว่า การเพาะกายทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนได้ครับ