Thursday, July 4, 2013

ปรามๆ ลูกหลานเรื่อง สมาร์ทโฟน และ แท็ปเล็ต กันบ้างนะครับ

สวัสดีครับ คนรักสุขภาพทุกท่าน


      ผู้คนมากมายยังมีความประมาทมากจริงๆ ในสังคม ที่มีความบันเทิง ทั้งไกลและใกล้ มากที่สุด ตั้งแต่มีการตั้งอารยธรรมของ มนุษย์ยุคใหม่ขึ้นมา ราวๆ 30,000 ปี จริงๆ ผมว่า มันน่าจะมากกว่านี้ แต่ตำราวิทยาศาสตร์ฝรั่งเขาเพิ่งค้นพบหลักฐานเท่านี้ ก็ว่าตามนี้ไปก่อน

     เมื่อ 4-5000 ปีก่อน คนสมัยนั้นต้องเป็นคนชั้นสูงจริงๆ จึงจะมีเวลาทำสิ่งที่ชอบ ที่ไหน เมื่อไรก็ได้ แต่ปัจจุบัน เพราะเจ้า สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต ทำให้เราทำแบบนั้นได้ เช่นเดียวกัน ความบันเทิงใจ ติดตามเราไปทุกที่ เพียง เปิดเครื่องแล้ว คลิกๆๆ ก็ไปอ่าน ไปดู และซื้อหาสินค้า ได้ดั่งใจ เราอาจคิดว่า คนเรา กำลังมีความสุขมาก จริงๆ อย่ามองโลกในแง่ ดีมาก เกินไป

     เพราะคนสมัยก่อน มีภาระหน้าที่ต้องทำ เพื่อเอาตัวรอด ความสุข มักจะมาจาก การรวมกลุ่มกันกินข้าว หรือทำกิจกรรมด้วยกัน งานเทศกาลต่างๆ และ วันสำคัญของเมือง หรือวันรวมญาติ ทำให้พวกเรารู้จักคำว่า  พบสิ่งที่ไม่พึงใจ และ พบสิ่งที่พึงใจ อย่างชัดเจน พวกเขาสามารถรอเวลาเป็น เวลา 1 ปี เพื่อจะให้ถึง วันตรุษ สารท อีกครั้ง ขณะที่รู้จัก อดทนทำงาน ที่ไม่ค่อยพึงใจนักได้ตลอดปี คือ มี ขาว มี ดำ คล้ายๆ หลักของ เต๋า ที่ ต้องถ่วงดุลกัน

     ขณะที่ ปัจจุบัน คนยุคใหม่จำนวนมาก และเด็กอ่อนๆ ที่กำลังเล่น แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน อย่างเอาเป็นเอาตาย พวกเขาได้ความพึงใจ "ตลอดเวลา" นี่คือสิ่งที่น่ากลัว ในชีวิตคุณเคยสักครั้งไหมครับ ที่เคยเห็น
คนที่ดู ใส เบาๆ ดูแล้วเหมือนคนมีความสุข บรรลุชีวิต แต่ มาถูกการขัดใจ ไม่พอใจ เพียงไม่กี่เรื่อง ก็เปลี่ยนเป็น ยักษ์ อาละวาด พฤติกรรมเปลี่ยนเป็นคนละคน ผมว่า สักครั้งน่าจะได้พบมา นั่นคือ ธรรมดาโลก มันต้องมีคนแบบนี้บ้าง ผมวิเคราะห์ ง่ายๆ คือ บางที แม้แต่เขาเอง ก็ไม่รู้ตัวว่า เพียงตัวเองมีชีวิต ที่สุดสบาย ราบรื่นมาโดยตลอด แล้วเขาจะดูมีความสุขตลอดเวลา  ได้มารู้ตัวอีกที ก็ตอน ได้พบความไม่พึงพอใจนี่ล่ะครับ จึงได้ระเบิดอารมณ์ออกมา ทำไม?

     คนจีน มีหลักความเชื่อว่า คนเรา อยู่เฉย มักคิดชั่ว   เมื่อจิตเราเฉยมานาน มันก็อาจจะเป็นได้ ที่จิตมันเลือกทางชั่ว คือ พอโดนขัดใจ มันเลือกอาละวาดครับ

     ขณะที่เยาวชนมากมาย  โดนมอม ด้วย อุปกรณ์พกพา ที่ ไม่มีการสอนการใช้งาน พวกเชารู้แต่ว่า เล่นไอ้พวกนี้ แล้วสนุก แล้วดี กดทีเดียว ภาพสวยๆ เกมส์ สนุกๆ ก็มาถึงที่ สนุกกันใหญ่ พ่อแม่ต้องสังเกตุนะครับ จะเห็นว่า เด็กเหล่านี้เงียบ และ สนใจแต่อุปกรณ์พวกนี้ ผมว่าไว้เท่านี้พอ ลองต่อยอดกันเอง

     แล้ววัยรุ่นล่ะ จะเห็นว่า "คนงาม หน้างอ" มีอยูเต็มบ้่านเต็มเมืองตอนนี้่ สมัยที่มือถือมาเมืองไทยใหม่ๆ ยุคที่ใครก็ซื้อได้นั้น คนเรามักจะใช้การยกมือถือมาโทร เพื่อเลี่ยงในทุกเรื่อง เช่น ไม่อยากคุย ไม่อยากสนใจ มีปัญหาก็รับมือถือแล้วเดินหนี บางคนก็ใช้ Fake Call สารพัด แต่มันก็ยังได้ สบตา กันบ้าง

     แต่อุปกรณ์พกพา พวกนี้ มันทำให้เราเป็น คนงาม หน้างอ คือ ยกขึ้นมา แล้ว มันเอา ดวงตาของเจ้าของมาไว้ที่พวกมัน คนจะไม่มองหน้ากัน ซึ่งมันไม่น่าจะดี ว่าไหมครับ

    ต่อไปเด็กจะไม่สนพ่อแม่ ไม่ไหว้ผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ โดยเฉพาะอาจารย์ นี่ไม่ควรเอาแต่ก้มมองจอภาพ เพราะเราเป็น พ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ หากครูอาจารย์ เป็นเสียเอง แล้วจะไปสอนใครจริงไหม เพราะทำเป็นมองอุปกรณ์เหล่านี้ ทักษะในการติดต่อ สัมพันธ์จะไม่ได้ ฝึกเลย น่าเสียดายมาก แต่ยังไม่เท่า กับการที่ คนพวกนี้ ถูกฝึกให้  เมาอยู่แต่กับ ความพึงพอใจ ที่ เกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไรก็ได้ เพราะพวกเขาใช้ พวกอุปกรณ์พวกนี้ ได้ ทุกที่ ทุกเวลา

    เมื่อคนเราชินแต่กับความสุขสบาย ต่อไป ผมยังสงสัย คนรุ่นต่อไป มันจะเหลือ คนที่สู้ชีวิต กี่คน เกิดมีโรคระบาด คนต้องหนีเข้าป่า สมมติืนะครับ คนพวกนี้ อดมื้อกินมื้อ มีแรงเก็บของป่า ล่าสัตว์ กันไหม ผมสงสัยมาก ๆ  ถึงเวลานั้น กดหา App ช่วยหาของป่าก็คงไม่ทันกาล

      พอไปทำงาน ก็ไม่สู้งาน เจอปัญหา ก็หนี่ปัญหา คุยกัน แลกเปลี่ยนกันก็ไม่อดทน ทะเลาะกันง่ายๆ แบบนี้

      ทางแก้เฉพาะหน้าที่ผมพอมองเห็น คือ ต้องมีการสอน มารยาทในการใช้ อุปกรณ์พวกสมาร์ททั้งหลายครับ แล้วสอนตั้งแต่เด็กเล็กไปเลยจนถึง เด็กโต นักเรียน นักศึกษา และ คนวัยทำงาน ตลอดจนคนแก่ ด้วยครับ เพราะ คนแก่ เวลาใช้ ก็เป็น คนแก่ หน้างอ (เหี่ยว) เช่นกัน

      สิ่งที่ผมเขียนพอมีมูลไหมครับ?

สวัสดี