Thursday, October 31, 2013

สำหรับคนที่จะเริ่ม กลับมาเล่นเหวต อีกครั้ง หลังจากทิ้งมานาน ทำอย่างไร?

สวัสดีครับ ผู้รักสุขภาพทุกท่าน

    เราอาจจะพูดได้เลยว่า ความรู้สึกตอนเล่นเหวต กับตอนไม่เล่น สำหรับคนที่เคยเล่นมาอย่างต่ำเกิน 3 เดือนขึ้นไปนั้น จะรู้เลยว่า มันแลกมาด้วยอะไรก็ตาม ไม่ได้เลย ต้องเล่นเองและเห็นเอง ไม่ใช้สลิงค์ครับ คนที่เคยเล่นจะพบว่า ผมพูดถูกต้อง

    สิ่งที่เริ่มก่อเกิดคือ เราจะมีความมั่นใจมากขึ้น ขณะที่จะมีสติ มีจิตใจที่สงบกว่าตอนไม่เล่นอย่างเห็นได้ชัด ขออย่างเดียว ให้เล่นด้วยทางสายกลาง ยืดเส้น ค่อยๆ สั่งสมกล้ามเนื้อไปตาม การฝึกที่ถูกต้อง และต้อง Cool Down ทุกครั้งหลังเล่นเสร็จ ครับ

     แนวทางนะครับสำหรับคนไม่มีเวลาจริงๆ หากจะกลับมาอีก ก็คงให้เล่นแบบประคองไปก่อนครับ สำหรับผม มีแนวคิดว่า สัปดาห์ละ 2 วันก็ยังดี มันจะมีผลหรือ น้อยไปไหม? นี่คือคำถาม

     ผมได้แนวคิดนี้มาจากเพื่อนคนหนึ่ง ตัวเขาน้ำหนักตัว มากเกิน 100 กิโลกรัม และ เวลาขึ้นบันได จากเจ็บที่เข่า เขาเคยฝืนขึ้นเหมือนคนปกติ ก็ย่ำๆ ไป แต่ตอนนั้นมัน ลามไปเป็นเข่าอีกเสบ กว่าจะหายเป็นปีๆ เลยนะครับ เมื่อหายมาได้ เขาเข็ดครับ เมื่อต้องขึ้นบันได แขนซ้ายของเขาจะ ช่วยพยุง และ ดึงตัวขึ้น ไปพร้อมๆ กับ ขาที่ส่งน้ำหนักตัวขึ้นไป ปรากฎว่า ทำแบบนี้ เ่ข่าของเขาหยุดอยู่แค่ เจ็บแต่ไม่ลุกลาม

    หลายปีผ่านไป เขาเริ่มสังเกตุว่า ขึ้นบันได ได้คล่องกว่าเดิม แขนซ้าย มีแรงดึงมากกว่าเดิม นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ให้นึกถึงคนงานแบกข้าวสารไว้ครับ แต่ละคนนี่ กล้ามงามๆ ทั้งนั้น และไม่ต้องไปออกกำลังกล้าม โดยอาศัยท่าไหนๆ ท่าแบกข้าวสารนี่ล่ะครับ แต่นี่มันคือ การเล่นกล้ามแบบ ธรรมชาติ

    การที่เขาใช้แขนซ้ายช่วยขึ้นบันได และ ใช้แขนขวา ช่วยพยุงตอนลงบันได้ ทำให้แขนทั้งสองข้างเกิดการพัฒนากลุ่มกล้ามเนื้อ ที่ใช้งานจริง ๆ ขึ้นมา นี่ล่ะ ความมหัศจรรย์ ของร่างกายคนเรา

    ผมเคยคิดว่า หากเราเล่นแบบ พยุงคือ ไม่ได้มีเวลา หรือตั้งใจจะเล่นจริงจัง แต่ยังรักการเพาะกายอยู่ อยากจะรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ ใช้งาน ซึ่งมีดีกว่า ไม่มี คนเราอายุมากขึ้น ฮอโมนร์ต่างๆ ลดลง แต่มันจะกลับมา เพิ่ม หรือ ประคองไว้ หากเราเพาะกาย เพราะกล้ามขึ้นไม่ได้ หากขาดฮอโมนร์ ทางธรรมชาติ คือมันเป็นวงจรของมัน อันทำให้ คนที่ต้อง บุกบั่นฝ่าฟัน ก็ยังมีกล้ามมีความแข็งแรง บางคน 80 ปี แล้วกล้ามกลับแน่นสวย กว่าหนุ่มๆ ก็มีครับ ขณะที่ หนุ่มๆ อายุเกิน 35 ปี กินๆ นอน ก็ย้วยขึ้นทุกวัน แบบนี้

    ธรรมชาติ มันต้องเอาตัวรอด มันคงนึกว่า การเล่นกล้าม คือ งานอย่างหนึ่ง คนๆนี้ ต้อง เจอกับน้ำหนักโหดๆ สัปดาห์ละ 3-4 วัน มันก็ไม่ยอม หยุดทำงาน ต้องมาช่วยสร้างร่างกายไปเรื่อยๆ แบบนี้ เพื่อคนที่เพาะกายจะได้ รอด ในการเผชิญน้ำหนัก ที่ตัวธรรมชาติ มันนึกว่า เป็นภาระบางอย่าง (มีคุณกับเรา)

    ทีนี้ หากเราไม่เล่นมาก เอาหลักการทั้งหมดข้างต้น มารวมกัน เราก็เล่น น้อยสิครับ 2 วันไปเลย ข้อดีคือ

   1.คงต้องใช้เวลาเป็นปี กว่ากล้ามในแต่ละส่วนจะตอบสนอง เพราะเราไม่ได้ เล่น ตามตารางฝึก แต่เรายังคง ไม่ทิ้งมันสนิท มันจะเริ่มมีการพัฒนากล้าม จนขึ้นมาได้ และ พร้อมใช้งานได้เช่นกัน แต่ในฉบับ เอาตัวรอดได้ หรือ ฝาหรั่งเรียกว่า Survival นั่นเอง นี่เหมือน เพื่อนที่ผมเล่า คือ

                                                          " ฝึกเบา รอนาน แต่ใช้การได้"


                                                             


"Less is More"



 2. สุขภาพคุณย่อมดีแน่ เพราะคงความกระชุ่มกระชวยไว้ได้ แทนที่จะอ่อนล้า หรือ เครียดกับงาน ทุกสัปดาห์ กลายเป็นมีวัน ที่เราออกกำลังกายมาคั่นให้กลายเป็นทุก 3 วัน ประมาณนี้ สัปดาห์หนึ่ง 2 ครั้ง
ยังไงก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

3.ฝึกน้อยๆ จะทำให้เราฝึกได้ถี่ ไร้ข้ออ้างเว้นการฝึก ต่อไปจะเริ่ม หรือมีโอกาส ที่แรงบันดาลใจ จะกลับมาแล้วกลับ ไปฝึกเต็มรูปแบบ เพิ่มวันฝึกเอง เพราะคุณรู้ว่า สัปดาห์ละ 2 วัน มันห่างจะ โปรแกรม 3 พัก 1 เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น จริงไหมครับ เอา 2 วันก่อน แล้ว หากมีโอกาส อีกสัก กี่เดือน กี่ีปี ก็ยังกลับมาฝึกเต็มๆ ได้

4.ทำให้เราได้กลับมาทำความคุ้นเคยกับท่าฝึก การหายใจ และ ยังทำให้ ลดการเจ็บป่วย บาดเจ็๋บ จากการฝึก ได้น่าจะ 100 % ทำให้เรามีช่วงรอ เมื่อไรพร้อมไปฝึกเต็มๆ ก็ลดการบาดเจ็บ ได้เกือบๆ 100 % เช่นกัน

5.การฝึกเพาะกายแบบเบา จะคงกระแสการเพาะกายให้อยู่กับตัวคุณ และ อาจโน้มนำไปสู่ การออกกำลังกายอื่นๆ เช่น แอโรบิค ต่างๆ เช่น วิ่ง เดิน แกว่งแขน โยคะ เพราะ มันเหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ ที่การออกกำลังกายแบบหนึ่งจะพาเราไปสู่ การออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ ถามว่า ดีไหมครับ?

   โดยสรุปคือ สำหรับคนที่ คิดว่า ขยาดกับอาการปวดกล้ามเนื้อ เบื่อ ไม่ค่อยเคร่งครัด อย่างใช้ชีวิตเสรี หน่อย ไม่ต้องอยู่ในตารางฝึก มาสิครับ มาฝึกแบบเบาด้วยกัน เพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เท่านั้นครับ พอแล้ว

  แนวทางการฝึกนะครับ ขอเสนอไว้คร่าวๆ ดังนี้

 การฝึกเพาะกายแบบเบา แนวคิด โดยคุณบอลล์

1.ควรฝึกทุกกลุ่มกล้ามเนื้อ ตามปกติ ทยอยเล่นทีละท่า สองท่านะครับ ทีละส่วนกล้ามเนื้อด้วย ห้ามฝึก
   วันเดียวครบทุกส่วน ของดี จะกลายเป็นของเสียนะครับ ห้ามไว้เลย ระวังด้วยครับ อันตราย
2.เล่นให้ถูกท่า หายใจให้ถูกวิธี
3.มีการยืดเส้น วอร์ม เล่นแบบมีสติ สมาธิ และ ต้อง Cool Down เสมอ
4.ถ้าเป็นผมนะครับ หากวันธรรมดา ก็ จันทร์ กับ พฤหัสบดี ครับ ทิ้งช่วงกันแบบ 3-4 วันได้เลย
   เพราะหากเน้น 2 วัน มันก็ กลายเป็น ฝึก 3 พัก 1 ไปอีก
5. หากเป็นเน้นวันหยุด ผมว่า อาิทิตย์ กับ พุธ ครับ

  อย่างไรก็ตาม การทานอาหาร ก็ต้องเน้นหน่อย คือวันฝึก ก็ควรทาน มื้อพิเศษ เน้นโปรตีน สัก 1 มื้อเพิ่มเข้ามาครับ เรื่องวันไม่จำเป็นต้องทำตามผม ให้กำหนดวันได้ แต่ระยะห่าง ควรเป็น 3-4 วัน ครับ

     ขอให้มีความสนุก และเบิกบานใจ ที่ท่านไม่ต้องทิ้งการเพาะกายที่ท่านชอบ ไว้ข้างหลังอีกแล้วนะครับ พาเขาเดินทางผ่านกาลเวลา ไปสู่วันแห่งการมีสุขภาพดี มีความพร้อมด้วยกันกับท่านครับ

ขอใ้ห้ทุกท่านมีความสุข

สวัสดีครับ
คุณบอลล์  :0)

Sunday, October 27, 2013

ขอบคุณสำหรับ ยอดการเข้าชม เฉลี่ยเดือนละ 5,000 ครั้ง สำหรับบล็อก เพาะกายแบบแมนๆ สไตล์ "คุณบอลล์" ครับผม

สวัสดีครับ

   เพียงระยะเวลา 2 เดือน กับยอดการเข้าอ่านบล็อกของผม มากถึง 10,000 กับ 81 ครั้ง ณ วันนี้ วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2556 เวลาราวๆ 9.30 น. สำหรับผม มันมีค่ากับผมมากครับ และยังทำให้ผมเกิดความ เขินอาย เพราะผมคงปล่อยให้ความเชื่อถือ จากแฟนๆ บทความหมดไปกับ การเข้ามาชมบล็อก แล้วไม่มีอะไรอัฟเดต ไม่ได้ีอีกต่อไปแล้ว

    ผมต้องเริ่มกลับมาหมั่นเพิ่มบทความ (คุณภาพ) เพิ่มขึ้น ให้มีความถี่ใกล้เคียงกับ 2 ปีก่อนครับ เนื่องจากกรอบการทำงาน และ ความสนใจของผม เติบโตไปตามอายุ ทำให้ มีงาน มีภารกิจที่เพิ่มเข้ามา แม้อาจจะ ใส่เต็มร้อย ให้ไม่ได้เหมือนเดิม (อันนี้ไม่แน่ครับ เพราะการรักษาสุขภาพเป็นเรื่อง ที่ต้องใส่ใจตลอดชีวิต) ก็จะพยายาม อัดให้ได้สัก 95% ครับ :0) (แล้วจะเขียนทำไม? ฮา... มันก็คล้ายๆ เดิมนั่นล่ะ)

   เดือนตุลาคม ผมเอง ยังต้องเตรียมงาน นำเสนอรายงานประจำปี สำคัญมาก ให้กับหน่วยงาน ทำให้ ปีนี้ จัดเต็มๆ ไป 9-10 เดือน จนจบงาน และ ต้องเริ่มวงรอบใหม่ ในอีกไม่กี่วันจากนี้ จากการประชุมใหญ่ของสถาบัน จึงเริ่มคิดว่า อย่างไรเสีย ต่อไป มีแน่ ปีละ 9 เดือนอย่างต่ำ ที่ต้องลุย กับเนื้องาน จนถึงวันนำเสนองาน จึงคิดว่า เวลาอาจจะมีน้อยลง
 
    แต่หากมองในแง่ดี เราอาจจะใช้ การบริหารเวลา หรือ Time Management เข้ามาจัดการ ได้ครับ ต้องเริ่มเอาสิ่งที่อ่านๆ มา มาใช้กันเสียที เพราะไม่แน่ ผมอาจทำสิ่งดีๆ ได้เยอะขึ้น ในขณะที่ใช้เวลาน้อยลงก็เป็นได้ครับ

    จากย่อหน้าก่อน ภาษาชาวบ้านเราๆ เรียกว่า ต้องรู้จักแบ่งเวลานั่นเอง

    เอาอีกแล้ว พาเพื่อนๆ พี่ๆ คุยนอกเรื่องตามเคยครับ เอาล่ะ ตอนนี้ยอดชม เป็น 90,081 ครั้งแล้ว ขอขอบคุณมากๆ ครับ มันเหนือความคาดหมายมาก กับการ อัฟเดตน้อยมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ต้องขออภัยครับ และ สัญญาว่าจะชดเชยให้ ท่านผู้อ่านบทความ มากกว่านี้ครับ :0)

     ขอให้ช่วยเป็นกำลังใจให้บล็อกของผมกันต่อไปครับ เพื่อมุ่งหน้าสู่

       1.การมีบทความคุณภาพด้านการเพาะกายที่เพิ่มมากขึ้น เป้าหมาย ไม่ต่ำกว่า
          100 บทความก่อน ต.ค. 2557   และ

       2.ยอดการเข้าชมบล็อก ทะลุ 100,000 ครั้ง ก่อน Happy New Year 2557 ครับผม


    ถามว่าตั้งเป้าหมายไป หวังอะไรหรือ เปล่าครับ เพราะชีวิตนั้นเมื่อเรา รู้ว่า กำลังมุ่งหน้าไปสู่่อะัไร จะทำให้เรา เป็นคนมีทิศทางครับ ง่ายๆ สบายๆ ครับผม

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)