Wednesday, June 18, 2014

อัฟเดตอาการของ เว็บมาสเตอร์ กับการผจญภัยในโลกของคนเจ็บหลัง

สวัสดีครับ

    หลังจากที่เป็นอาการเจ็บหลังมา ร่วมๆ จะ 2 เดือนผมก็ได้ผ่านอะไรมาเยอะมาก แต่ต้องขอขอบคุณการเพาะกายที่มีเป็นทุนเดิมไว้ ทำให้ผมมีกล้ามเนื้อที่ แข็งแรงมากพอที่จะรองรับน้ำหนักตัว และไปทำงานได้ค่อนข้างเร็วๆ ทั้งๆ ที่หลายคนอาจจะต้องขอลา พักนาน แต่ผมได้ทดลอง และ พบว่าไปทำงานได้ ซึ่งขอบคุณการเพาะกายทุกครั้ง

     อาการผมดีขึ้นทุกวัน โดยสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ ยังไม่กล้าเขียนรายละเอียด แต่บอกไว้คร่าวๆ คือ

    1.ควบคุมอาหาร ดังคำ พระท่านว่า ผู้บริโภคน้อยยามวิกาล ย่อมอาพาธน้อย ตัวผมยิ่งน้ำหนักตัวมากเลยลดมันทุกมื้อ กินตามที่ควรให้ครบ 5 หมู่ครับ แต่กินให้น้อยลง แต่อันนี้แล้วแต่นะครับ ผมมีข้อสังเกตุว่าตั้งแต่ผมมีอาการมา ผมทานน้อยลงครับ

    2.ค้นหาท่าโยคะมาประยุกต์ใช้ แต่ไม่ใช่ เล่นโยคะ แบบคนปกติ คืออะไร?

      ในเน็ตจะมีท่านี้ ออกกำลังกายให้หลังแข็งแรง น่านั้น ช่วยกล้ามเนื้อหลัง คลายสะโพก ผมเชื่อครับว่าดี ยิ่งใน Youtube นี่เยอะมาก แต่คุณๆ ลืมอะไรไป 1 อย่างกันหรือเปล่า?

        -โยคะจะมีการเตือนไว้เลยว่า บางโรคต้องปรึกษาหมอก่อน เล่นโยคะ นั่นแปลว่า โยคะบางท่า เหมาะกับคนที่ปกติ โยคะบางท่า คนป่วยทำได้ และหลายท่า ห้ามทำครับ จำข้อนี้ไว้

       -คนที่เจ็บหลังแล้ว คำว่าแล้วคือคนป่วย จะด้วย การที่กล้ามเนื้ออักเสบ ชะลอการทำงาน หรือ หมอนรองทับเส้น หรืออาการเจ็บหลังใดๆ นั่นคือคนป่วย คุณต้องดูตัวเองครับ ว่า สมควรทำท่าโยคะนั้นๆ ไหม

    วิธีที่ถูกคือ เมื่อเจ็บหลังด้วยอาการใดๆ แล้ว ควรค้นหาว่า โยคะท่าใด กายภาพท่าใด ที่เอามาทำกับอาการป่วยนั้นๆ ได้ หาได้แล้ว จึงค่อยนำมาทำ และ ท่าไหนทำแล้วเจ็บ ให้หยุดไว้ก่อนครับ นี่เป็นหลักของการทำกายภาพบำบัด ทำแล้วเจ็บ ต้องหยุดครับ จนรอดูอาการผ่านไปสักหลายวัน หรือเป็นสัปดาห์ มาลองช้าๆ หากผ่านได้ค่อยทำต่อไป แต่ต้องช้าๆ นะครับ

  3.ช่วงที่รอท่าโยคะหลายท่า ที่ผมยังทำไม่ได้ ผมไม่อยู่เฉย ผมใช้ท่า ยืดเส้น หรือ ท่ากายภาพบำบัดต่างๆ มาทดลองทำช้า ค่อยๆ หาไป จนได้ท่าที่โอเคสำหรับผม และทำเรื่อยมา แนะนำว่า ให้ถามจากคนที่เคยเป็นเหมือนเรา แล้ว เขาใช้ท่าไหน บ้าง ลอกมาครับ แต่ ท่าไหนเจ็บ เลิก และหยุด ครับจำไว้ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ สะสมให้ได้สัก 2-3 ท่า แล้วทำประจำ จะเห็นว่าอาการดีขึ้น

  4.แนะนำท่าชี่กง เพราะส่วนมากจะยืนนิ่งๆ ทำท่านั้นท่านี้ ทำช้าๆ ค่อยๆ ทำ และเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับคนเป็นใหม่ๆ แต่ต้อง ช้า และ ไม่เจ็บ เน้นว่า คนที่เจ็บมาก ยืนไม่มั่นคง ให้ลองนั่งทำ และให้แบ่งทำ ครับเช่นเขามี 18 ท่าก็ทำวันละ 3 ท่า 5 ท่า แล้วค่อยวนใหม่ อย่าลุยทีเดียว เพราะนั่งทำ เลือดลมไม่ดีเท่ายืนทำ ผมลองมาแล้ว มึนจะเป็นลม มันเหนื่อยมาก

 5. อย่าอวดดี เดินยังไม่เป็นท่า จงใช้ไม้เท้า ไม้เท้าแบบที่ค้ำแล้ว ไหล่ไม่ตก นะครับ ดีกว่า แบบไหล่เราต้องเอียงตามลงไป แม้จะดีขึ้นก็อย่าประมาท ใช้ไม้เท้าไปก่อน

6. ตรวจดูเมื่ออาการปวดส่วนใหญ่คลาย บางคนจะเป็นอาการ ความเจ็บ มันไปกระทบเส้นประสาท มันทำให้ขาอ่อนแรงได้ ก็ค่อยๆ เริ่มใช้ท่า ชี่กง โยคะมาช่วย วิธีที่ผมลองมาแล้วดีคือ ขาอ่อนแรง มักมาพร้อมกับ น่องตึง ให้ทำดังนี้

      ผมใช้ท่า ขัดสมาธ คนอ้วนไขว้ขวาไว้หลวมๆ ก็ได้ แล้วประนมมือ กลางอก กางศอก นับ 1-60 ช้า หากนั่งแล้วเจ็บมากก็นับน้อยลงเป็น 1-10 ก็ได้ จากนั้น ให้ยืดขาไปข้างหน้า เท่าที่ยืดได้ นับ 30 ช้าๆ คนที่เจ็บเอามือประคองข้างตัวได้ จากนั้นสลับขาอีกข้างมาไว้ด้านหน้า ทำเหมือนเดิม แล้ว สลับขาอีกครั้ง ทำเหมือนเดิม

       มันเป็นท่าที่พาเลือดลมมาเลี้ยงตั้งแต่เอวลงไปขาครับ ก็เลือดกับลมใช่ไหม ช่วยรักษาอาการต่างๆ ท่านี้จึงช่วยเรื่องขาอ่อนแรงได้ เห็นผลใน 1 เดือน ครับ

       ยังใช้ท่าที่ว่านี้ กับคั่นในการออกกำลังในท่าต่างๆ หรือ ยิดเส้น หรือ ชี่กง แล้วขาเหมือนมันล้่าอ่อนแรงได้ดีมากครับ

      จากนั้นพักนานหน่อย แล้วค่อยลุกไปยันกำแพง ก้าวขามาด้านหน้า โน้มตัวเข้าหากำแพงแล้วยิดขาอีกข้าง ทำสลับกัน แล้วทำพร้อมกัน จากนั้น นั่งสักพัก ลุกมาจะเดินคล่องขึ้น

     หากทำท่าใหม่ๆ แล้ว เย็นนั้นหรือวันต่อมา มีอาการปวดกล้าม ล้าเห็นชัดให้ทำวันเว้นวันครับอย่าลุยทุกวันค่อยๆ สร้างความแข็งแกร่งครับผม

7. ต้องมีความเชื่อ ออกกำลังกาย ยืดเส้น ทำให้ได้ วันละอย่างน้อย 30 นาที ผมทำจนมาถึงวันละ 45นาทีแล้ว ต้องทำได้ระดับนี้ จะเริ่มเห็นผล

8.เชื่อมั่นว่า คุณจะหายได้ 100% หรือเกินกว่านั้น ตื่นมาพูดกับตัวเองเลย เราหายได้แน่นอน

9.รักษากายแล้ว รักษาทางจิตด้วย ให้สวดมนต์ ภาวนา ยืมพลังดีๆ ของจักรวาล พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มาใช้ หรือ ร่วมกับการตั้งสัจจะดีๆ สัก 1 ข้อเพื่อโลกเพื่อสังคม หรือตัวคุณเอง เช่น เลิกเหล้าเด็ดขาด
ถวายเป็นพุทธบูชาแบบนี้

10. มีคนที่รับฟังคุณ จงระบายออกครับ แต่คุยเรื่องบวกๆ ให้คนรับฟังบ้าง

11. ไม่ทำอะไรรีบ และพร้อมมีสติไม่ประมาท เกิดพลาดล้ม หรือ เจ็บแบบไม่ตั้งใจ อย่าซ้ำเติมตัวเอง
         คิดบวกอย่างเดียว ว่าเราหายได้

12. กินอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำพอเพียง ทำใจให้สดชื่น

13. ควรออกกำลังกายไปตลอดชีวิต

14. มีโอกาสหาอากาศดีๆ เช่นสวนออกกำลังกาย ยังเจ็บมากต้องมีคนไปด้วย อากาศที่ไม่ใช่อุดอู้ในห้องน่ะครับ แต่ต้องดูตัวเองด้วยว่าไปแล้วกลับไหวไหม แรกๆ หาคนไปเป็นเพื่อน

15. นำความช้าเข้ามาในชีวิต ค่อยๆเดิน ค่อยๆทำ ครับ แบบไหน ให้นึกถึงการรำไทเก๊กครับ นั่นล่ะ

 ลองเอามาให้อ่านกันครับ พบกันใหม่บทความต่อไป

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ ;0)


     

No comments:

Post a Comment