Saturday, August 2, 2014

ผ่าน 100 วัน กับการออกกำลังและทำกายภาพ พร้อมความศรัทธาและกำลังใจ กับอาการเจ็บหลังของผม

สวัสดีครับ

   หลังจากมีอาการเจ็บหลังมา 3 เดือนกว่า กับการตั้งใจรักษาตัวเอง และกำลังใจ ผมได้มีการพัฒนาดีขึ้นในทุกด้าน ทำไปทำมา ก่อนหลังจะหายดี มีคนเริ่มทักว่า

   1.ผมหน้าตาสดชื่นกว่าเดิมมาก
   2.ผมดูผอมลงเห็นชัด
   3.ผมมีอาการดีขึ้นมาก
   4.และผมเป็นนักสู้คนหนึ่ง กับการต้องเดินทาง ไปกลับรวมๆ แล้ววันละ ประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง
      ที่ต้องนั่งรถไกลๆ

  กับการเป็นคนที่อยากมีชีวิตที่ดี และต้องดูแลตัวเอง ผมถือว่าผมเป็นนักสู้ที่ทำได้ดีที่สุดแล้ว

 อาการเจ็บหลังมีข้อควรระวัง ที่คนเป็นครั้งแรก แล้วหาย มักจะไม่รู้คือ

  - ห้ามกลับไปยกของหนักอีก ทำได้ตลอดชีวิตยิ่งดี
  - การ ยืน เดิน นั่ง นอน อย่าเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็วทำช้าๆ เช่นนอนก็ค่อยๆ ลุก นั่งแป๊บก่อนลุก แล้วค่อยเดินแบบนี้ เป็นต้น
  - จงหมั่นออกกำลังกล้ามเนื้อหลังเท่าที่ทำได้ และไม่มีอันตราย ทำไปตลอดชีวิต
  - ระวังน้ำหนักตัว ไปทางน้อยดีกว่ามากๆ
  - ไม่ละทิ้งการทำสมาธิ การสวดมนต์ ภาวนา
  - การแพทย์ทางเลือก ฝึกปราณ ชี่ โยคะ
  - ระวัง การสะดุด เสียหลัก หกล้ม ต้องระวัง บางทีการหัดท่า มวยจีน การสร้างความสมดุล
    อาจช่วยลดการกระแทกเวลาล้มได้
  - จดจำท่าทาง ที่ทำแล้วบรรเทาปวด รักษาตัวเองได้
  - มีพลังใจ มั่นใจ ศรัทธา ที่จะรักษาตัวได้เสมอ ไม่ยอมแพ้ ไม่รับสภาพ ต้องสู้ๆๆๆๆๆ

 หลังจากออกกำลังกาย กับทำกายภาพมาอย่างต่อเนื่อง อาจมีพักบ้าง แต่ไม่เกิน 2 วันในสัปดาห์ ผมก็พบว่า อาการปวดทุเลาไปเรื่อยๆ ปวดมากผมก็ลางานครับ เพราะไม่อยากเป็นฮีโร่จอมปลอม อย่าให้งานเราเสียเป็นพอ ทำให้ดีที่สุด จนเราหายดีขึ้น แต่อย่าได้ประมาท ตอนผมเป็นใหม่ๆ ราวๆ 3 สัปดาห์หลังมีอาการ ผมกินยาแก้ปวดจากหมอ ยามันหลอกครับว่า เหมือนจะหายแล้ว

   ทำให้เราหลงคิดไปเองว่า หายล่ะ ลุกเดิน เพราะมันอยากหายจริงๆ เดินวันนี้ 100 ก้าว อีกวัน 200 อีกวัน 300  แล้วก็เรียบร้อย เกิดอาการ ขาตึง และ แย่ลง ในวันหลังๆ ตกใจ มากๆ พอยาหมดฤทธิ์ มันเริ่มเจ็บกันเห็นๆ และเราก็เริ่มเข้าใจ เจ็บต้องพักฟื้น ผมต้องโทรไปขอ ฝ่ายบุคคลเพื่อเลื่อนกำหนดการย้ายที่ทำงานไปอีก 1 สัปดาห์ จนอาการเริ่มดีขึ้น

   มาถึงวันที่ต้องไปรายงานตัว ชีวิตผมในวันนั้น กลับสงบ และ ปลง ไม่ไปวันนี้คงไม่ดี เราต้องไป ใจมันถามว่า กรูจะขึ้นรถไหวไหม ใจหนึ่งบอกว่า เอ้าหากก้าวขึ้นไม่ไหว ค่อยถอยแล้วเดินกลับที่พัก เออ มันคิดได้เอง ก็เลยคว้าไม้เท้า ค่อยๆ เดินไป ผมตอนนี้เกิดสิ่งหนึ่งในใจคือ เห็นใจ คนพิการ และทุพพลภาพอย่างสุดใจ เพราะเราในวันนั้น ก็คล้ายๆ แล้วครับ จากคนที่เดินคล่อง ต้องค่อยๆ ไปกับไม้เท้า....ทีละก้าวๆๆ

   ต้องไปรอที่ตึกของสถาบันเพื่อดูอาการว่าต้องเข้าห้องน้ำหรือไม่ เพราะอาการปวดหลังส่วนล่างกับอาการปวดห้องน้ำมันใกล้ๆ กัน หลายคนที่เป็นใหม่ๆ แยกไม่ออกครับ นั่งจนมั่นใจ เข้าห้องน้ำเสร็จก็ต้องเดินข้ามถนนกว้างๆ ดีที่มีคนคอยโบกให้

   ไปถึงสถาบัน ผมก็ต้องเดินเข้าไปอีกไกลพอดู พบน้ำใจของเพื่อนๆ มากมาย ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมา
และค่อยๆ ไปทำงานจนผ่านมาแล้ว 3 เดือนกว่า และผ่านการต่อสู้ ค้นข้อมูล สร้างกำลังใจ และ อื่นๆ อีกมาก ขอขอบคุณ พ่อแม่ น้องชาย แฟนผม และ ทุกคน และ สิ่งศักดิ์สิทธิ ที่คอยดูแลผม จนมาถึงวันนี้ได้
ผมต่อสู้แบบ เพื่อตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก และจะทำประโยชน์ในสังคมและโลกในอนาคต คิดแบบนี้ทำให้มีกำลังใจครับ และตอบตัวเองได้ว่า เราจะต่อสู้เพื่ออะไร

    จากคนที่ต้องใช้ไม้เท้า ผมเริ่มปล่อยไม้เท้าเดิน ได้เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน เดินที่สวนของสถาบันได้ 2 รอบขณะที่เสาร์ที่ผ่านมา ผมเดินได้แล้ว 3 รอบ เป้าหมาย คือ 4 รอบ ใน 30 นาทีครับ

      ถือว่าเป็นการเดินเพื่อฟื้นฟูกำลังกายกำลังใจของตัวเอง ขณะที่ในการทำงาน การใช้ชีวิตอาจต้องใช้ไม้เท้าไปก่อน เพราะมีสิ่งที่ต้องระวังคือ ถนนลื่น และ บันได ครับ เราต้องไม่ประมาท จนแข็งแรงจริงๆ จึงจะค่อยปล่อยไม้เท้าครับ อย่างไรก็ตามที่สวน ผมจะปล่อยไม้เท้าเดินครับ จาก 4 รอบ จะเป็น 10 รอบให้จงได้

    เราต้องสู้ต่อไปครับ

ขอเป็นกำลังใจให้คนที่เจ็บหลังทุกคน   ครับผม

สวัสดีครับ
คุณบอลล์
:0)



No comments:

Post a Comment