Tuesday, April 24, 2012

เล่นกล้ามต้องใจเย็น และ มีเป้าหมาย

สวัสดีครับคนรักสุขภาพทุกท่าน

   นานแล้วที่ผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับ การเพาะกาย ที่สอนให้เราต้องใจเย็นๆ ผมคิดว่าน่าจะนำมาแบ่งปันให้อ่านกัน การเพาะกายที่ดีนั้น ค่อยๆ ทำดีที่สุดนั่นคือ เริ่มจากน้อยๆ ไปสู่มากๆ เริ่มจากวันแรก ก่อนจะมีหลายวัน เริ่มจากช้าๆ ไปสู่ความเร็วที่มากขึ้น แต่ที่ควรใช้ความช้ามากที่สุดคือ ก่อนจะเล่นหยุด อ่านค้นคว้าหาข้อมูลจากเว็บดีๆ กันเสียก่อนจะดีที่สุด
                   
                                พระเอกหนังอินเดีย ยังหันมาเล่นกล้ามกันแล้วยุคนี้

    ตัวผมเองเคยเล่นมาก่อนเป็นสิบปีแล้ว แล้วเลิกไปยังค่อยๆ อ่านหาความรู้ร่วมเดือนนะครับกว่าจะเริ่มลงมือ เพาะกายด้วยตนเอง เพราะยามที่หาครูไม่ได้ เรานี่ล่ะที่ต้องพึ่งตนเอง จนในที่สุดผมก็เริ่มเล่นแล้วก็นี่ผมเล่นมาได้ 11 เดือนแล้วครับ แม้จะขาดหายไปบ้างราวๆ 4 เดือนแต่นี่เป็นกีฬาที่ผมอยู่กับมันนานที่สุด ชนิดหนึ่ง พอพื้นฐานความรู้ความเข้าใจมี เราก็เล่นอย่างปลอดภัย เจ็บน้อยก็เป็นไม่เจ็บคือมีแต่ดีๆๆๆ

     ปีที่แล้วจุดอ่อนของผม เหมือนเส้นผมบังภูเขานั่นคือเรื่อง เป้าหมาย ผมวางไว้ตอนต้นๆ แต่สักพัก ความเหนื่อย ความมันส์จากการเพาะกายทำให้ผมลืมมันไปเสียหมด ปีนี้เอาใหม่ มาเริ่มตั้งเป้าหมายกับผมสิครับ ปีที่ผ่านมา ตกลงผมหากมองเรื่องน้ำหนักตัวผมลงไปราวๆ 3-5 kg. เท่านั้น
ถามว่าคุ้มไหม คุ้มครับ เพราะกายเพาะกายไม่ได้ให้แค่เรื่องลดน้ำหนัก แต่มันให้เรื่องชีวิตในอนาคต ของเราด้วย ความแข็งแกร่ง และอื่นๆ สำคัญเล่นเพาะกายมันไม่ได้ มานั่งอดๆ อยากๆ คุมโน่นนี่มากมาย

     ผมเล่นเพาะกาย ผมกิน ตั้ง 6 มื้อ ใครว่าอด ก็ บ้าแล้วครับ ว่าไหม แต่เป็น 6 มื้อคุณภาพ วันไหนเล่นกล้าม ผมไม่กินน้ำอัดลมเลย เด็ดขาด
เพราะเป็นที่รู้กันมันทำลายการสร้างกล้ามเนื้อ ขืนยังกินก็เรียกว่า ไอ้โง่ ดังนั้นเฉพาะวันพักเท่านั้น ที่มีดื่มบ้าง แต่วันฝึกผมไม่แตะเด็ดขาด ปีนี้ผมตั้งเป้าเอาไว้ 3 ระยะ มาดูกันว่ามันจะออกหัวหรือก้อย

ระยะแรก   ถึงกรกฎาคม ศกนี้ คือ  3 เดือนจากนี้ ลด 5 กิโลกรัม เนื่องจากติดงานและภาระเยอะไม่ตั้งไว้สูง
ระยะที่สอง อีก 3 เดือน ต่อไป คือ ตุลาคม จะลดอีกไม่ต่ำกว่า 5 กิโลกรัม   รวมลดได้ 10 กิโลกรัม
ระยะที่สาม อีก 2 เดือน  ปลายปี ลดให้ได้ 3 กิโลกรัม รวมเป็น 13 กิโลกรัม

  นี่ล่ะเป้าหมายของผม พร้อมยังได้มัดกล้ามทั่วตัวแมนสมชาย มาดูกันว่าผมจะทำได้ไหม
ถือว่าลดไม่เยอะนะครับ เพราะฝรั่งเขาใช้เวลา 16-18 เดือนลดได้มากกว่าผม ตั้งหลายเท่า แต่ผมเอาค่อยๆ ทำครับ คือเรากลัว
ผิวหนังมันย้อย น่าเกลียด เหมือนพวกที่ไปฟิตเนส อย่างเดียว มันย้อยเป็นถุงกาแฟเลย บางคนตั้งใจมากย้อยทั้งตัวต้องไปให้หมอ
เฉือนเนื้อออกแล้วเย็บ ไม่เอาดีกว่า สู้ลงทุนลดสัก 2 ปี สัก 25- 30 กิโลกรัมไปเรื่อยๆ เนื้อค่อยๆ กระชับตัวตามธรรมชาติดีกว่า
กลัวครับ

คุณล่ะตั้งเป้าหมายหรือยัง

สวัสดีครับ

No comments:

Post a Comment