Wednesday, November 28, 2012

อย่าจำสูตร 30 นาที อาทิตย์ละ 4 วัน มันพาเราท้อ เราแบบนี้ดีกว่า

สวัสดีครับ

   ผมได้มีแนวคิดเรื่องการออกกำลังกายแบบใหม่นี้ขึ้น เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน จากการที่เวลามันไม่ว่างจริงๆ เสียที
และตัวผมเองก็นอนดึกบ่อยๆ เนื่องจากมีเว็บส่วนตัวที่กำลัง สร้างใหม่ๆ จนเช้าๆ นี่หมดแรง แค่มาทำงานก็ถือว่าดีแล้ว
วันหนึ่ง หลังจากผมรับประทาน สารอาหาร ที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ยังไม่พูดในบทความนี้) ทำให้ผมมีเรี่ยวแรง
ในการตื่น และมีแรงพอที่จะลุกไปอาบน้ำ แต่งชุดออกกำลังกายแล้วไปออกกำลังกายที่สวน ใกล้บ้าน

   ตอนที่เดินไปที่สวนในวันนั้น ผมถามตัวเองว่า ทุกครั้งที่มาออกกำลังกาย เราต้องเดินเร็วๆ หรือวิ่งให้ได้ 30-40 นาที
ทุกครั้งไปหรือไม่ แล้วต้องทำให้ได้ 4 วันใน 1 สัปดาห์หรือไม่ ผมเริ่มได้ความคิดใหม่ๆ จากจุดนี้

  ผมว่าการคิดแบบนี้ ว่า   ต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิค ให้ได้ 30 นาที สัปดาห์ละ 4 วันจึงมีสุขภาพดีนั้น มันมีข้อเสีย
อยู่ด้วยคือ

   1.หลายคนทำไม่ได้ เพราะเหตุผลส่วนตัว เช่นต้องรีบไปทำงาน กว่าจะกลับมาบ้านก็ 3-4 ทุ่มไปแล้ว
   2.หลายคนเห็นตัวเลข ก็ยอมแพ้ รู้สึกว่าไม่ไหว
   3.หลายคนคิดว่า หากทำไม่ถึงก็ไม่คุ้ม สู้ไม่เริ่มทำเสียเลยดีกว่า
   4.หลายคนทำได้ แต่ทำบ้างหยุดบ้าง เพราะมีตัวเลขมันคอยกระตุ้นจนเกินไป
   5.หลายคนรู้สึกว่า มันเรื่องมาก

  เอาล่ะ หลักการดังกล่าว ดีครับ ขอบอกเลย แต่สำหรับคนที่ทำได้ นะครับ ส่วนคนที่ทำไม่ได้ เราควรเปลี่ยนวิธีคิดกันใหม่
หมด อย่างไร?

   คุณเคยเห็นคนอายุ 85ปี 80ปี หรือ 75 ปี เดินเร็วปร๋อไหมครับ และยุคสมัยของท่านยังไม่มีการ รณรงค์เรื่องการวิ่ง
หรือเดินออกกำลังกายด้วยซ้ำ ตามสวนสาธารณะก็ได้ เห็น อาแปะ อาซิ่ม แก่ๆ ใหม่ แต่คล่องแคล่วกว่าเราคนหนุ่มสาวอีก
เคยฉุกคิดไหมครับว่า ทำไม คนสูงวัยเหล่านี้สุขภาพดีมาก ทั้งๆ ที่ไม่เห็นต้อง วิ่ง เดิน และต้องมีกฎเกณฑ์อะไรเกี่ยวกับ
4 หรือ ไม่ 4 วัน ต่อสัปดาห์ แต่ทำไมพวกเขาอายุยืน ทำไมๆๆๆๆ

   ผมคิดว่า ในโลกใบนี้การมีสุขภาพดีและอายุยืน ไม่ได้มีวิธีเดียวครับ มันมีมากกว่า 1 วิธีแน่นอน อย่างพระสงฆ์ของไทย
ท่านฉันข้าว 2 มื้อ และมื้อที่สองต้องก่อน เที่ยงที่เรียกว่า ฉันเพล มื้อเย็นงดเด็ดขาด สอดคล้องกับคำของพระท่านว่า
        "ผู้ไม่บริโภคยามวิกาล ย่อมอาพาธน้อย"

   แล้วเราก็เห็นว่าพระท่านในพุทธศาสนา อายุ 80 ขึ้นกันทั้งนั้นหลายๆ รูป อายุเข้าเกณฑ์ 90 ปี

 คำถามคือท่านต้องมา จ็อคกิ้ง ไหม ไม่มีครับ

  ต่อมาลัทธิเต๋า นักพรตพวกนี้ก็สุขภาพดีอายุยืน รำมวยไทเก็ก ได้สุขภาพดี ก็อายุยืนเช่นกัน

หลายชนชาติ กินมังสวิรัติ กินนมเปรี้ยว โยเกิร์ต อย่างที่ บัลกาเรีย ก็อายุยืน

  คนและท่านเหล่านี้ไม่ได้ออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 4 วันเลยนะครับ

   เมื่อผมไปถึงสวนพอคิดตรองดูแล้ว เอาล่ะวันนี้ คงไม่เดินให้หอบเหมือนทุกครั้ง "เดินเล่น" ดีกว่า คือเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ
ดูนก ชมไม้ แล้วก็ไปหาที่โล่งๆ ฝึกลมปราณหายใจลึกๆ ยาวๆ  ผ่อนออก ยาวๆ ไม่ถึง 20 นาทีผมสมองโล่ง เย็นสบายๆ
ผมให้เวลาราวๆ 30 นาทีกลับมาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน ปรากฎว่าวันนั้นผมสดชื่นทั้งวันเลย

   ผมจึงเสนอว่า การไปที่สวนหย่อมออกกำลังกาย สำหรับคนไม่ชอบออกแรงมาก หรือเวลาไม่พอ ก็ไป เดินเล่น ก็ยังดีครับ
ชีวิต ในสวนหย่อมเราเดินเล่น ได้ 7 วันเต็มเพราะร่างกายไม่ได้ล้าอะไร แต่เราสดชื่นได้ เต็มๆ นะครับ แถมไม่รู้สึกว่า ไปสวน
แล้วต้องเหนื่อย ทุกครั้ง ทำให้เราไปได้บ่อยๆ ดังนั้น หลักการนี้คือ
       การเดินเล่นในสวน
   1.เน้นการเดินเล่นจริงๆ หยุดที่ไหนก็ได้
   2.เน้นการหายใจยาวๆ ชมนกชมไม้
   3.เน้นไปฝึกสมาธิหรือปราณ (ไว้จะถ่ายทอดให้วันหลัง)
  4.เน้นไปได้ทุกวัน เพราะมันไม่ได้ไปเหนื่อย
  5.เสริมสร้างประจุบวกเข้าตัวเรามากๆ และเป็นทุนทางจิตและกายในการทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป
       เช่นเริ่มแข็งแรงก็เริ่มออกกำลังกาย โดยการเดินบ้าง วิ่งบ้าง

แบบนี้ การคิดแบบนี้ แทนคำว่า ไปออกกำลังกาย ด้วยคำว่า ไปเดินเล่นในสวน จะทำให้เรา พาตัวเรา ไปที่สวนได้ทุกเมื่อ

ลองทบทวนดูครับ
สวัสดี
คุณบอลล์ ผมทำได้ คุณก็ทำได้ :0)

ป.ล.
อานิสงส์ในการแนะนำเรื่องดีๆ เปิดแนวคิดใหม่ๆ ให้พี่น้องได้สุขภาพดี ถ้วนหน้านี้
ขอให้ข้าพเจ้า มียอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เติบโตๆ ฮ่ะๆๆๆ ขอบคุณครับ
สนใจโพสต์ไต่ถามได้เลยครับ

No comments:

Post a Comment