Saturday, May 24, 2014

การเพาะกาย กับคุณูปการทางตรง และทางอ้อม ยามเจ็บไข้ได้ป่วย (ปวดหลัง)

สวัสดีครับ

   คนที่เคยปฏิบัติมา หมายถึงทางด้าน สมถะหรือวิปัสนากรรมฐาน คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า
มรณานุสติ อันหมายถึง ทุกคนมีที่หมายคือ ต้องตายกันทั้งนั้น เป็นการมีสติ เตือน ตัวเอง ตลอดเวลา ทำให้ มีสติทำให้สิ่งอันควร นี่พื้นๆ หากเป็นผู้ปฏิบัติจริงจัง สามารถทำให้เข้าใจเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดและ เบื่อในการเกิดได้จริงๆ ข้อนี้ เป็นวิปัสนา

    ตัวผมเองมีความรู้เพียง หางอึ่งพอได้ศึกษามาบ้างก็พบว่า ยังไม่ต้องคิดเรื่องตายหรอกครับ เพียงได้เจ็บหนักๆ แรงๆ ก็พอจะเห็นภาพและได้สติในหลายๆ เรื่องว่า ชีวิตนี้มีค่านัก จงเร่งทำความดีเถิด และ ซาบซึ้งในพระคุณของพ่อและแม่ อย่างสูงยิ่ง

    ยามที่เรายังแข็งแรง เราน้อยนักจะเห็นความสำคัญของเพื่อนรัก คือ ร่างกายของเรา เพราะมันเป็นของตาย และอยู่กับเรามาแสนนาน จนวันที่เราบาดเจ็บหนัก ป่วยแรง และเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เราจะทราบดีว่า พระคุณ พ่อแม่ นั้น สูงส่งเพียงใด

     เอาแบบพีื้นฐานที่สุด หยาบๆ พระคุณพ่อแม่มองได้จากที่ไหน   สำหรับผม มองเห็นได้จากร่างกาย ของเรา ที่ กินได้ นอนหลับ ตื่นขึ้นมา ลุกนั่งสบาย มีแรงกายไปทำงาน และเพียง ลุก นั่ง ยืน เดิน และ นอน ได้อย่างสบายๆ ไม่มี อาการเจ็บปวดใดๆ เราจะบอกว่า นี่เราโชคดี จริงๆ ไม่ใช่แค่นั้น

    ต้องคิดต่อไปว่า อะไรคือต้นเหตุแห่งความโชคดีนี้ล่ะ

     คำตอบคือ พ่อแม่ ที่ให้ร่างกายและจิตใจของเรามา  คุณภาพชีวิตที่อยู่มาได้อย่างไม่เจ็บป่วย หรือ ปวด คือ ชีวิตที่พ่อแม่ให้


      จนวันที่เราเจ็บป่วยเราจึงรู้ค่าว่า ร่างกายนี้สิคือ ของขวัญชิ้นสำคัญที่พ่อแม่มอบให้  และคนเราต้องมี พลังศรัทธา ในการรักษาตัวเอง โดยมีหลักส่วนตัวดังนี้

หลักในการรักษาตัวเอง จงอย่ายอมแพ้

1. มีศรัทธาในการรักษาตัว ปรับใจลงมากลางๆ แล้วตั้งใจว่า ต้องรักษาตัวเองให้ดีที่สุด
     +การแพทย์ปัจจุบัน
     +การบำบัด, กายภาพบำบัด
     +การแพทย์ทางเลือกต่างๆ
     + การรักษาโดยพลัง เช่น ชี่กง โยคะ และอ่ืนๆ

2. เข้าหาผู้ใหญ่ พูดคุยแบ่งปัน อย่าเก็บปัญหาไว้คนเดียว

3. พูดคุยกับญาติ หรือ เพื่อน กำลังใจสำคัญ

4. จงต่อสู้ และ คนรอบข้างจะร่วมสู้กับคุณ

5. ยามว่าง ต้องหาความบันเทิงใจ ที่ไม่ทำให้อาการคุณกำเริบ ของผม ฟังเพลง ดูหนังที่ห้อง
    แต่ต้องไม่มากเกินไป

6. หลวงพ่อจรัล วันอัมพวัน สิงห์บุรี ท่่านว่า  สวดมนต์เป็นยาทา  วิปัสนาเป็นยากิน ทั้งกินทั้งทา ย่อมดีแน่
    จะป่วยหนัก ป่วยไม่หนัก ทำข้อ 6.นี้รับรอง มีแต่ได้กับได้ และมีผู้ป่วยจำนวนมาก หายขาด อย่างไม่น่า     เชื่อ ด้วยข้อ 6. นี้

ึ7. งดอบายมุขทุกชนิด เพื่อป้องกัน ทุกข์ใหม่ๆ ขจัดทุกข์เก่า

8. เชื่อว่า เราต้องทำได้ มีศรัทธา เสมอ และ เจริญอิทธิบาท 4 ธรรมแห่งความสำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าเป็น ธรรมะแห่งความสำเร็จ พุทธพจน์เป็นคำจริง ดังนั้น เจริญมากๆ เราหายเจ็บป่วยได้แน่นอน

  ผมมีคร่าวๆ 8 ข้อนี้

 เอ้าวันนี้พาเข้าหัวข้อก่อนครับ สำหรับคนที่เจ็บหลัง และต้องใช้ไม้เท้า จะเป็นแบบในรูป หัวกลม แบบมือจับ หรือแบบใดก็ตาม มันคือการใช้ไม้เท้า พวกเราเป็นนักเพาะกายแน่ละ มวลกล้ามเนื้อมากกว่าคนทั่วไป นั่นคือ น้ำหนักตัวย่อมมากกว่า ระดับถัวเฉลี่ย ยามไม่เจ็บหลัง ไม่มีทางรู้ว่า น้ำหนักที่มากกว่า ยามที่ต้องใช้ไม้เท้า มันมีผลต่อมือข้างที่ใช้ไม้เท้า อย่างไม่น่าเชื่อครับ มันคืออะไร?

                                                              มันคืออาการ กลุ่มที่เรา รู้จักดี
                                                                       นิ้วล็อค นั่่นเองกั



    ที่ผมว่า พวกเรานักเพาะกายรู้จัก อาการนิ้วล็อคกันดี เพราะนิ้วล็อค เกิดมาจากการ ยกของหนัก และผมขอแถมคือ การที่ฝ่ามือต้องยันกับวัตถุเดิมๆ ซ้ำ อีกด้วย โดยมีน้ำหนักกดลงมาจากลำตัวและแขนมาที่ฝ่ามือโดยผิดธรรมชาติ ในที่นี้ คือการใช้ไม้เท้า นั่นเอง

    นักเพาะกายจำนวนหนึ่งจะมีอาการนิ้วล็อค หลังจากฝืกได้ไม่นาน แต่คนที่อ่านบล็อกนี้ของผม จะไม่กลัวนักเพราะผมเคยเขียนบทความไว้แล้วว่า เรารักษาตัวเองได้ และได้จริงๆ ขณะที่เพิ่งเริ่มเป็น ซึ่งลองตามหาอ่านนะครับในบทความเก่าๆ สาเหตุจากนิ้วล็อค มาจาก วงแหวนของเอ็นนิ้วมือ มันอักเสบครับ ทางการแพทย์ เขาจะเข้าไปตัดมัน ง่ายๆ แต่หากเพิ่งเริ่มเป็น รักษาได้ครับ เพราะผมรักษาตัวเองมาแล้วและหายขาดมาก่อนๆ เอ้าบอกคร่าวๆ เน้นคนเพิ่งเริ่มมีอาการนะครับ เช่น ตื่นมาตอนเช้า มีนิ้วหนึ่ง งอเป็นมุมฉาก ไม่ยอมยืดเหมือนเพ่ือนๆ  หากลองดัดเบาๆ ลองกำมือ สักพัก เขาคลาย ก็ให้ทำดังนี้

     -เอามือข้างที่เป็น มาจับข้อมืออีกด้านโดย วางนิ้งโป้งขนานไปกับท่อนแขน อย่าไปกำ 
     - นิ้วที่เหลือ กำท่อนแขนเหนือข้อมือไว้ แล้ว ให้ดึงเนื้อที่กำไว้ถอยออกมา แล้วกดปลายนิ้วทั้ง 4 ลงไป จะได้ยินเสียง ครึ้ก รู้สึกไปถึงโคนทุกนิ้ว นั่นล่ะ ทำสัก 2-3 ครั้ง
     - จากนั้น ทาพวก แซมบัค ที่ โดนนิ้ว หรือทั้งฝ่ามือ เรียบร้อย
   ให้เลิกเล่นเหวต สัก 7-10 วัน รับรองหายครับ จากนั้นเวลากลับมาเล่น จงใส่ถุงมือเสมอ ครับ

   จากความรู้เดิมข้างต้น ผมเจ็บหลังและใช้ไม้เท้ามาราวๆ เกือบเดือน เช้าวันหนึ่ง ตื่นมา มือระบมครับ และมีอาการนิ้วล็อค ผมก็เฉยๆ เราเล่นเหวตมาเรารู้จักอาการนี้ดี  ก็ทำเหมือนที่บอก และ ผมพิสูจน์ว่า ผมทำได้จริงๆ 2 วันอาการปวดแปล็บๆ ทั้งฝ่ามือหายและนิ้วล็อคก็หาย ทำไม?


   ที่ผมหายนิ้วล็อคอีกแล้ว ก็เพราะมันคืออาการเดียวกับ การยกน้ำหนักนั่นล่ะ จนผมสรุปได้เองว่า หากมีน้ำหนักกระทำกับมือแบบผิดธรรมชาติ มันจะเป็น ดังนั้น ผมก็รักษาตามวิธีของผม และเอา ถุงมือเพาะกายมาสวม ดังรูป แล้วผมก็ไม่เขินอาย ผมสวมมันเวลาใช้ไม้เท้าไปข้างนอก แล้วมันก็หายขาด ครับ จริงๆ มันเท่อีกต่างหาก คุณว่าไหม 



       ภาพตอนสวม เป็นถุงมือที่ผมเคยเขียนบทความสมัยก่อน ยังสภาพดีมาก ซื้อหาได้ที่แผนกกีฬาตามห้างครับ ผมซื้อที่ The Mall ครับ 3 ปีแล้ว เป็นแบบรัดที่ข้อมือ เป็นแถบติดกันดีเสียอีก เวลาย้ำน้ำหนักลงไปมันคอยเซฟข้อมือให้เราอีกด้วย แล้วเวลาขึ้นรถ หรือ อะไร เราจะคว้าจับ ก็ยังแน่นไม่ลื่นอีกต่างหาก ลดภาระมือของเราไปได้ มากโข นี่ล่ะที่ว่าประโยชน์ทางอ้อมของการเพาะกาย เรามีอุปกรณ์พวกนี้ในห้องในบ้าน ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหนให้เมื่อยครับ บวก ความรู้จากบล็อกนี้เรื่องนิ้วล็อคทำให้เรารักษาตัวเองได้อีกต่างหาก

ภาพขณะสวมถุงมือและจับไม้เท้า ตามที่คนเราถนัด

   อย่างไรก็ตามประโยชน์อีกข้อของการเพาะกายคือ การรู้ว่า การใช้ท่าออกกำลังที่ถูกต้อง จะทำให้ชีวิตเราสบายขึ้น ไม่อันตราย รูปข้างต้นคือ การจับที่สวมวันแรก เพราะมันยังเจ็บๆ แปล็บๆ หากสวมถุงมือแล้วยังเจ็บให้จับแบบ ดัชนี้ชี้พื้น คือ ยืดนิ้วชี้ลงไปตามความยาวของไม้เท้า และ มีนิ้วโป้งประคองยืดเช่นกัน ขณะใช้ฝ่ามือเป็นเสมือนเป้าคลุมหัวไม้เท้าไว้ คุณจะพบว่า รับน้ำหนักได้ดี และ ไม่เจ็บมือครับ คนที่อาการเจ็บหลังทุเลาแล้ว จับท่านี้ก็ยังไหวครับ


ภาพแสดงให้เห็นมิติต่างๆ ของมือ ถุงมือ และ หัวไม้เท้า

   ขอให้ท่านจดจำสิ่งที่ผมเขียนเผยแผ่นี้ไว้ เป็นวิทยาทานครับ สำหรับคนใช้ไม้เท้า คนเจ็บหลัง การสวมถุงมือสามารถช่วยคุณจาก อาการนิ้วล็อคได้ ซึ่งหากเราไม่รักษามันจะเป็นการ ซ้ำเติมอาการ ที่จะใช้ไม้เท้าก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะเจ็บมือ นิ้วล็อค นี่เป็นวิทยาทาน เป็นกุศลแรง ขอให้เรามาช่วยกัน แชร์ไปนะครับเพื่อเป็นวิทยาทาน สืบไป
  
   เล่าจากประสบการณ์จริง สวัสดีครับ

 สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)

No comments:

Post a Comment