เล่นกล้ามโตได้อย่างที่เห็นตามนิตยสารฝรั่งต้องใช้ยา อาหารเสริม ใช่ไหม

 สวัสดีครับคนรักสุขภาพทุกท่าน
      ปัจจุบันบางคนที่เห็นนิตยสารและในหนังฝรั่ง เห็นคนดำคนขาวตัวโตเพราะกล้าม มันโตจริงๆ โตจนไม่น่าเชื่อ สำหรับคนไทย
อาจจะเกินงาม แต่จริงๆ ในใจเราก็ชื่นชมครับว่า มันกล้ามล้วนๆ เขาคนนั้นแข็งแรงกว่าเราแน่ๆ บางคนคิดทางลบทันที มันกล้ามโต
แบบนี้ มันใช้ยา คนธรรมดาทำไม่ได้หรอก เราก็สูงตั้ง 185 ซ.ม. ทำไมไม่เห็นล่ำเหมือนมันเลย

       จริงๆ แล้วมีอยู่ยุคหนึ่งที่ วงการเพาะกายเกิดการต่างพร้อย นั่นคือ มีการค้นพบเรื่องของสเตอร์รอย ขึ้นมา จนต้องมีการตรวจ
กันอย่างจริงๆ ในการประกวดเพาะกายต่างๆ และมีการรณรงค์กันใหญ่โต ในอเมริกา

      จนในวันนี้กล้าพูดกันว่า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้สเตอรอยด์ ก็กล้ามใหญ่โตมโหฬารกันได้ อะไรทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ ก็ต้องขอบคุณ
วิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ ในรอบ 40-50  ปีมานี้นี่เอง ที่ได้มีการวิจัยลงลึกไปเป็นอย่างๆ เลย ไม่ว่าจะเป็น ระบบการฝึก ท่าฝึก จำนวนการยก น้ำหนัก
การเผาผลาญ การกินอาหาร และอื่นๆ ทำให้การเพาะกายไม่ใช่แค่การทำตามๆกันมา แต่ว่าเป็นการมีหลักวิทยาศาสตร์รองรับในทุกขั้นตอน  ความเป็นวิทยาศาสตร์ ในศาสตร์การเพาะกาย ทำให้มีเนื้อหามากมายปรากฎในนิตยสารด้านนี้ เช่น Flex, Muscle & Fitness เป็นต้น
หลายคนติดภาพหนังสือแนวสุขภาพแบบไทยๆ ที่เนื้อหาดูเรียบไป แต่สำหรับ Flex แล้วมันเข้มข้น ราวกับว่า การเพาะกายเป็นวิชาเรียนยังไงยังงั้น
เลยครับ มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การวิจัยใหม่ๆ ท่าฝึก การแก้ปัญหาในการเพาะกาย แรงบันดาลใจบรรจุอยู่ครบ ซึ่งต้องขอบคุณ โจ ไวเดอร์ ปรมาจารย์
วงการเพาะกายและเจ้าของนิตยสารแนวเพาะกายที่ใหญ่และดังที่สุดในโลก ชาวอเมริกัน

      อย่างไรก็ตามใน FLEX หรือนิตยสารอื่นๆ มีโฆษณาอาหารเสริมมากจริงๆ เราว่ากันไม่ได้ เพราะหากไม่มีโฆษณาเขาย่อมทำนิตยสารไม่ได้
อาหารเสริมที่ว่าคือ เวย์โปรตีน กรดอะมิโน ครีเอทีนและอื่นๆ อีกมากมาย ท้ายเล่มมักจะมี ประมาณ ส่งเสริมความเป็นชายประมาณนั้น อาหารเสริม
พวกนี้ เป็นการสกัด แล้ว สกัดอีก จนได้ ความบริสุทธิ์ในการดูดซับได้เร็ว ตรงจุด มีตั้งแต่ อาหารเสริมก่อนเพาะกาย อาหารคั่นก่อนต่อด้วยคาร์ดิโอหรือ
การออกกำลังกายด้วยแอโรบิค จากนั้นก็ยังมีอาหารหลังเพาะกายอีก โอยสารพัด แท่งโปรตีนก็มี แท่งคาร์บ หรือ คาร์โบไฮเดรต ก็มี ในแบบที่ว่า แทบไม่มี
นวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ที่สามารถจะเกิดมาในวงการอาหารเสริมเพาะกายอีกแล้ว

       อาหารเสริมพวกนี้ย่อมผ่าน อ.ย. บ้านเขามาเรียบร้อย ทำให้มีการกินกันเป็นล่ำเป็นสัน ผมเคยอ่านในเว็บของอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือ ว่าเป็นอาจารย์คนแรกของผมในการเพาะกาย พันตำรวจโทวิษณุ ตุวยานนท์ (ยศน่าจะเพิ่มแล้วอันนี้ผมเอามาจากหน้านี้ http://www.tuvayanon.net/4me.html) เว็บไซต์ของท่านเป็นเว็บไซต์เพาะกายที่มีข้อมูลบทความ ที่ดีที่สุดในประเทศไทย เท่าที่ผมดูมาหลายที่ในตอนนี้ครับ เชิญชมเว็บไซต์ของท่านได้ที่ http://www.tuvayanon.net  รับรองจะติดใจ
 เอาล่ะ เมื่อเห็นแชมป์กินอาหารเสิรม แล้วต๊กกะใจ อะไรมันจะเยอะขนาดนั้น เยอะจริงๆ แต่ตัวของพี่ท่านก็ใหญ่จริง กล้ามเป็นมัดๆ

       ต่อมาอ่านไปเรื่อยๆ พบคำถามว่าต้องกินอาหารจึงจะมีกล้ามหรือ ในเว็บของท่านอาจารย์ พอเข้าไปอ่าน ผมสบายใจเลย ไม่จำเป็นเลยครับ
คำว่ากล้ามใหญ่สวยในใจคนไทย ผมว่าคงคล้ายๆ กัน คือประมาณ ฮิวจ์ แจ็คแมน พระเอก X-MEN นี่ล่ะพอล่ะ หากประมาณนี้ บอกเลยครับ
อาหารเสริมไม่จำเป็นเลย ปัญหาคนเล็กๆ อย่างเราๆ ที่ยังไม่ได้แม้จะเริ่มจับดัมบ์เบลล์เลย อย่าเว่อร์ครับ อย่าเพิ่งกลัวกล้ามโตใหญ่ จนหุบแทน ขาโก่ง
เตี้ย โอยสารพัด นั่นมันเป็นความคิดที่ผิดครับ เพราะกล้ามเนื้อไม่ได้โตง่ายๆ ใน 7 วันเหมือนเครื่องสำอางค์ ที่อ้างว่าลบร่องรอย ไฝฝ้าได้นะครับ
       กล้ามรักคนที่ออกแรง กล้ามรักคนที่กินถึง กล้ามรัก คนมีวินัย กล้ามรักคนที่มีท่าฝึกถูกต้อง มีโปรแกรมฝึกถูกต้อง หากคุณตอบทั้ง 5 ข้อได้หมด
ค่อยพูดเรื่องกล้ามโตเกินไป เพราะถ้าทำ 5 ข้อนี้ไม่ครบ ไม่มีกล้ามแน่นอนครับ เห็นไหม มันเป็นวิชานะครับ ไม่ใช่เข้ายิม แล้วก็ปั๊มๆๆๆๆ ไม่ใช่ครับเข้าใจ
ผิดอย่างแรง แหมทำให้นึกถึงน้องที่ร้านขายซีดี เขาบอกผมว่า พี่ผมก็เคยฝึก แต่ต้องเลิกเพราะไหล่กับคอใหญ่จนเกือบผูกเน็คไทไม่ได้ ฮ่ะๆๆๆ ผมถามว่าเล่นยังไง เขาบอกว่า ก็เล่นยกดัมบ์เบลล์นี่ล่ะ ผมถามว่าทำส่วนไหนบ้าง เขาทำส่วนเดียว ฮา มันก็ผิดธรรมชาติสิครับ เล่นกล้ามเขาเล่นทั้งตัวนะครับ ไม่มีนักเพาะกายคนไหนเล่นแค่ไหล่นะครับ ฮ่ะๆๆๆๆ คือถ้าเล่นทั้งตัวมันจะพากันขยาย ทั้งตัวครับ มันไม่ไปกระจุกที่เดียววางใจได้ ไม่งั้นคงเห็น วูฟวารีน ใน X-MEN คอตัน ไปแล้วใช่ไหม

      บทความนั้นเป็นเรื่องของ นักเพาะกายยุคเมื่อ 30 ปีก่อน สมัยที่ อาหารเสริม ยังไม่มี มีการแสดงรูปแชมป์ตอนนั้น กับ ตอนนี้ และรายการอาหารวันละ
 6 มื้อ ของทั้งสองคน ปรากฎว่า ในรายการ อาหารของแชมป์เมื่อ 30-40 ปีก่อนไม่มีอาหารเสริมใดๆ เลย และเป็นการกินของชายคนหนึ่ง ที่กินเก่งเท่านั้นเอง ผมผู้เขียนบทความนี้ เป็นคน ที่ตอนนี้ เล่นเพาะกายมาได้ 23 วันเห็นผลแล้วว่า ทำอย่างไรกล้ามจะมีได้ ต้องมีวินัยขนาดไหน และซาบซึ้งในศาสตร์เพาะกายแล้ว เป็นคนที่น้ำหนักตัวมาก แต่มีศรัทธาในกล้ามเนื้อและวิชาเพาะกาย ที่รู้ตัวว่ากำลัง สร้างตัวขึ้นแทนไขมันที่กำลังสลายตัวไปจากการเผาผลาญตลอดเวลาของมวลกล้ามเนื้อ ผมกินอาหารตอนนี้ ในขณะที่ฝึกเผาะกาย แบบถูกต้องจากการ
อ่าน ค้นคว้าจากเว็บและนิตยสารต่างๆ ไม่ได้ต่างจากตอนที่ กินไม่ยั้งปาก ก่อนเล่นเลย

     ผมยังมีความสุขกับการกิน เหมือนเดิม เพราะกินตั้ง 6 มื้อ ฮ่ะๆๆๆ แต่เปลี่ยนจาก ของหวาน น้ำอัดลม ของมันมากๆ กินจุบจิบ มากิน อาหารที่เปี่ยมไปด้วย โปรตีน ผัก ผลไม้  ถั่ว และ น้ำ นมเปรี้ยว โอย มีของกิน สายเทพ อีกมากมาย ที่เราออกแบบให้คล้ายกับ รายการอาหาร
ของนักเพาะกายฝรั่งได้ อย่าลืม เมืองไทย เมืองเทพครับ มีอาหารไม่ขาด อุดมสมบูรณ์กว่าเมืองฝรั่งเยอะครับ แค่เปลี่ยนสิ่งที่กินเข้าไป คือเสน่ห์ของ
การเพาะกาย กินอาหารไม่มากกว่าเดิม แต่กระจายออกไป 6 มื้อ เพื่อเกิดความเผาผลาญได้ตลอดวัน ไม่ได้กินมากกว่าปกติของผมเท่าไรเลยครับ
แต่ผมได้มัดกล้าม ร่างกายแข็งแรง ข้อ เส้นเอ็นก็แข็งแรง และ มีฮอโมนท์ ในการซ่อมแซม และ เพศ มากขึ้น ดังคำว่า ยิ่งกล้ามใหญ่ ฮอโมนท์เพศยิ่งมาก
และอื่นๆ อีกมากมาย เช่น มวลกล้ามเนื้อ และ กระดูกจะเพิ่มขึ้น ซึ่งมันจะอยู่กับ เราตลอดชีวิตครับ มีงานวิจัยบอกว่าคนแก่อายุ 90 ปีที่เดินไม่ไหวแล้วเล่นเพาะกาย ลุกขึ้นมาเดินได้ และเร็วกว่าเดิม

   คุณไม่ต้องไปกังวลนะครับว่าระบบไหลเวียนจะสู้พวกแอโรบิค ไม่ได้ ก็หลังเพาะกายก็เดิน หรือ วิ่งได้ครับ ของผมทำ 20 -30 นาที แบบเบาๆ แทบทุกครั้งที่เล่นเพาะกาย ได้ทั้ง ภายใน ภายนอกครับ ที่ให้เล่นเบาๆ เพราะว่า หากเล่นหนัก มวลกล้ามเนื้ออาจโดนแย่งไปได้ ดังนั้นควรกินโปรตีน
สักจำนวนหนึ่ง ก่อนเล่นแนวแอโรบิคด้วย

   ผมเพียงอยากจะบอกว่า เราเพียงมีวินัยเรื่องการฝึก และเรื่องอาหารให้ครบ 6 มื้อรับรอง จะแข็งแรง มีมัดกล้ามไม่ยาก ขอให้พยายาม เล่นให้ผ่าน 4 เดือนแรกให้ได้ มีกล้ามสวยขึ้นแน่ๆ เดินเหิน สบายร่างกายแข็งแรง มีประสิทธิภาพในการใช้ชีวิต และได้รับความเคารพนับถือจากคนรอบข้างไม่ขาดครับ

    สวัสดี
คุณบอลล์ :0)