Tuesday, June 28, 2011

น้ำตาล ทำให้คนลืมตาย อย่าได้วางใจ น้ำตาล มหันภัยแฝงเร้นในอาหารสุขภาพ

สวัสดีคนรักสุขภาพทั้งหลาย

   วันนี้นำวาบความคิด มาเล่าสู่กันฟัง เรื่องมีอยู่ว่า มีทานโปรตีนของ ขายตรงต่างชาติที่ดังที่สุดอยู่ ผมไม่ทาน พวกเวย์ โปรตีนเหมือนชาวบ้านเขา เพราะเมื่อได้อ่านวิธีการทำ เวย์แล้ว ผมคิดหนัก ว่ามันใกล้คำว่า สารเคมี มากกว่า อาหารนะสำหรับผม มันอาจจะไม่อันตรายอะไร แต่ผมลงทุนหน่อย เอาเงินที่เที่ยวเรื่อยเปื่อยมา ซื้อโปรตีนจาก นมและถั่วเหลือกินมันเสียเลย สบายใจดี คือยังได้อาหารเสริมโปรตีน ขณะที่ ยังไม่ถึงกับ เวย์ครับ

   ขณะที่กินผมพลางคิด มันเป็นอาหารเสริมนะ กินมากไปจะดีไหมเนี่ย ทันใดนั้นผมก็นึกได้ เมื่อเดือน 2 เดือนก่อน ผมยังกิน น้ำอัดลม ขวดลิตรนะครับ 2 วันครั้ง เดือนหนึ่ง ประมาณ 8 ขวด กินมาเป็นปี แบบนี้ไม่น่าจะกลัวมีอันตรายกับ ตับ ไต ไส้ พุง มากกว่าหรือ ทันใดนั้น ก็ได้ ดวงตาเห็นธรรม   ในอดีต น้ำตาลทำให้คนอย่างผมลืมตายจริงๆ

    ในน้ำอัดลม มีทั้งกรด ทั้งน้ำตาล ของไม่มีประโยชน์ ไอ้คาเฟอีน จะมีหรือไม่ มันก็อีหรอบเดียวกัน คือ กรดและน้ำตาลมีอยู่เต็มในน้ำอัดลมครับ ผมดื่มน้ำอัดลมมาขนาดนั้น ทำไมผมไม่กลัว สาเหตุมาจาก น้ำตาลครับ ความหวาน
ของมัน นั่นเองที่ทำให้ ผมลืมตาย จากความหวาน เมื่อเข้าไปมันกลายเป็นพลังงาน เหลือ ที่พอกพูนผ่านวันและปีจนกลายเป็นหน้าท้องหนาเตอะ ไขมันที่ก้นย้อย และ ไขมันที่พอกอยู่ตามอวัยวะภายในต่างๆ
 
    ถามว่ารู้ไหม รู้ครับ สมัยนี้ ใครบ้างไม่รู้เรื่องพวกนี้ แต่ทำได้ไหม ไม่ได้ เพราะมันอยาก มันติด อยากกินหวาน ความอยากนี่ล่ะ คือ สิ่งที่ผมจะบอกว่า ความหวานทำให้คนลืมตายได้จริงๆ

    เมื่อมองว่าอะไรบ้างที่ทำให้คนลืมตายได้  แน่นอน อุดมการณ์, ความรัก, ความเกลียด และอื่นๆ ความเมา เหล้า ยาเสพติด และอื่นๆ ของพวกนี้เราเห็นกันมามาก มันทำให้คนลืมตายได้เหมือนกัน และเป็นสิ่งมึนเมา เสพแล้วติด หากเป็นแบบนี้ เราควรจะจัดให้ น้ำตาล เป็นยาเสพติดหรือไม่ นี่คือคำถาม

    ผมอยากเสนอให้เรืยกน้ำตาลว่า เป็น ยาเสพติดเชิงสุขภาพ อันหมายถึง สิ่งที่เรากินเข้าไปเป็นกิจวัตร แต่ท้ายที่สุดกลับมาทำร้ายเราเอง

    คนที่กินน้ำตาลจากน้ำอัดลม เป็นประจำ ยาวนานอย่างผม แม้จะสมาทานศีล 5 ก็ไม่ควรนับให้ เพราะ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรามัวเมา หลงกินดื่มมัน ยั้งตัวเองไม่ได้ หน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว เรากินหมด อ้างจะกินมันได้ทุกเวลา แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ใช่หรือไม่

   ดังนั้น น้ำตาลเอยอะไรเอยที่เรา มัวเมากับมัน ถือว่าผิดศีลข้อที่ 5 ทั้งหมด

   ผมเลยไม่คิดอะไรมาก คิดว่า หากเหล้าเราไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ นอนเพียงพอกินอาหารพอเหมาะมีประโยชน์ คิดดี ทำดี พูดดี กับการกินโปรตีนเสริมเข้าไปบ้าง ตามควร ขณะที่นักกีฬาเพาะกายฝรั่งเขาซัดกัน ที 3-4 ช้อน เรากินตามเกณฑ์ ก็ไม่ควรมีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น จากนั้นผมก็กินโปรตีนอย่างสบายใจ

   พลางในใจท่องไว้

 1.หากไม่มีแป้งเข้าไปอยู่ในร่างกายมากนัก ร่างกายจะดึงไขมันมาเผาผลาญ
 2.กล้ามขาเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า เพราะ ขาคือกล้ามเนื้อชิ้นใหญ่มาก
    ไขมันมันพอกที่ต้นขาเอย ที่ก้น เอย มันเป็นช่วงขาเราทั้งนั้น
 3.เล่นกล้าม ไม่ยอมเล่นขา เล่นผิดแล้วแต่แรก
 4. กินแป้งตามควร ไขมันจะลด เน้นโปรตีนให้มาก
 5.ทำต่อเนื่อง คือคำตอบ ของทุกคำถาม
 6.ทำด้วย อิทธิบาท 4

สิ่งที่ขอฝากไว้: ขณะนี้มี นมกล่อง ถั่วเหลืองกล่อง นมเปรี้ยวเอย อะไรเอย ที่อ้างกันว่าบริโภคเป็นอาหารสุขภาพ
                       ได้มีการขยับ ปริมาณน้ำตาลขึ้นพ้น 10 กรัมไปแล้ว อย่านึกว่ามันเท่าเดิมลองพลิกอ่านดูครับที่ตัว
                        ภาชนะ ผมขอแนะนำแบบ 10 กรัมลงมาครับ บางเจ้าขึ้นไป เกือบ 30 กรัม ดังนั้นอย่าแปลกใจ
                       ที่ลูกหลานก็ไม่ได้กินมากแต่ ทำไม ฉุ อ้วนได้ มันมาจากอาหารสุขภาพ เพื่อนสนิท ของคุณนั่นล่ะ
                       ต่อไปกินอะไร ผลิกดู การแจกแจง แคลอรี่ และ น้ำตาลเสมอๆ ครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขในเส้นทางสุขภาพ

สวัสดี
คุณบอลล์ :0)

No comments:

Post a Comment